วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

GWM Steed 6 ปิกอัพจีนบุกแอฟริกา..ชูจุดเด่นที่ดีไซต์และความประหยัด..!!

       ตลอดเวลาที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ในประเทศจีนมีความหลากหลายมาก เนื่องจากรถยนต์ส่วนหนึ่งเป็นแบรนด์จากในประเทศตนเองที่มีจุดขายที่ราคาถูกกว่ารถต่างประเทศ และยังเป็นที่นิยมของชาวจีนที่อยากจะมีรถสักคันเพื่อเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้กับตัวเอง..!!



       เมื่อหลายปีที่ผ่านมานั้นรถยนต์จีนส่วนใหญ่จะมีราคาถูกถึงถูกมาก แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยคุณภาพของตัวรถที่ด้อยกว่ารถต่างประเทศ แต่เมื่อเทคโนโลยีในการพัฒนาทุกวันนี้ก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา รถแบรนด์จีนจึงจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงในด้านของคุณภาพทั้งวัสดุ เครื่องยนต์ และอื่นๆเพื่อที่จะแข่งขันและคำนึงถึงผู้ใช้รถมากขึ้น

       เช่นเดียวกับ Great Wall Motor (GWM) แบรนด์ใหญ่ในจีนที่เป็นผู้ผลิตรถเอสยูวี และรถปิกอัพอันดับต้นๆของประเทศ และมีบริษัทในเครือกว่า 30 บริษัท GWM ยังเอาจริงเอาจังกับผลิตภัณฑ์เพื่อคนจีนและลงทุนขยายการทำตลาดในต่างประเทศ ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่มองการณ์ไกลและกล้าที่จะออกมาเผชิญในตลาดที่มีการแข่งขันสูง



       ซึ่งวันนี้เราจะมารู้จักกับ GWM Steed 6 รถกระบะที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงอีกรุ่นของค่ายนี้เลย ซึ่งนำเข้ามาทำตลาดในแอฟริกาด้วย โดยเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา GWM ค่อนข้างจะเน้นเจาะตลาดรถเพื่อการพาณิชย์พอสมควร โดยรุ่นที่แล้วอย่าง Steed 5 ก็ถือว่ามีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวแอฟริกา 

       การมาของ Steed 6 ครั้งนี้ถือว่าเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จในต่างแดนของรถจีน ซึ่งกระบะคันนี้จะมีรุ่นย่อยเพียง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น SX และรุ่นท็อป Xscape โดยรูปลักษณ์จะโดดเด่นมากกว่ารุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ทรงโฉบเฉียวที่เปิด-ปิดอัตโนมัติ กระจังหน้าโครเมียมทรงใหญ่มาก มีไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL ที่วางเหนือไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วทรงย้อนยุค โป่งล้อใหญ่และจะมีช่องระบายอากาศหลอกๆไว้คล้ายของ Ford Ranger เลย




       ขยับมาดูด้านข้าง เอ้ะ!! นี่มันโครงห้องโดยสารของ D-Max รุ่นก่อนนี่นา ใช่แล้วครับรถคันนี้ใช้โครงสร้างในส่วนห้องโดยสาร บานประตูเดียวกันกับ D-Max 2011 แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ชุดแชสซีเดียวกันแล้วนำมาพัฒนาต่อหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะใช่เพราะรุ่น Steed 5 ก็ใช้จากดีแมกซ์โดยตรงเลย ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็พยายามสร้างความแตกต่างด้วยการดีไซต์กระจกมองข้างฝังไฟเลี้ยวใหม่ การ์ดกันกระแทกข้างประตู แต่กันชนหลังดูเฉิ่มๆไปนะ ทั้งยังมีการเสริมหล่อด้วยราวหลังคา บาร์กระบะ และกล้องมองหลังในรุ่น Xscape อีกด้วย ขนาดตัวรถมีความยาว 5,345 มม. กว้าง 1,800 มม. สูง 1,760 มม. และหนัก 1,810 กิโลกรัม

      มาถึงส่วนของภายในจะมีความแตกต่างจากรุ่นที่แล้วแบบไม่เหลือซากเลย เพราะ Steed 5 ได้ยกแผงคอนโซลของ D-Max รุ่นแรกมาทั้งชุด และยังจิ้กเอาพวงมาลัยสี่ก้านของวีโก้มาอีกด้วย แต่จงลืมภาพนั้นไปซะ! เพราะ Steed 6 ได้มีการออกแบบใหม่ทั้งหมดยกชุดเช่นกัน เริ่มจากพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มาตรวัดถูกแบ่งเป็นสองวง วัดรอบและความเร็วตามสไตล์รถยุคใหม่ ชุดเครื่องเสียงสามารถเล่นวิทยุ CD/MP3 ได้มีบลูธูท และลำโพง 4 ตัว (รุ่น Xscape 6 ตัว) ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา และยังมีการเดินตะเข็บเย็บด้ายบริเวณคอนโซลหน้าด้วย โดยรวมถือว่าดีไซต์ออกมาได้ดีนะ เสมือนนั่งอยู่ในรถ SUV เลย แต่อุปกรณ์ต่างๆก็ไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่นัก




       ขุมพลังจะมีขนาดเดียวคือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร VG Turbo ที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 305 นิวตัว-เมตร ที่ 1,000-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 11.36 กิโลเมตรต่อลิตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 70 ลิตร

       ระบบความปลอดภัยก็ยังจัดมาให้แบบเต็มๆ ซึ่งในรุ่น SX จะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรค ABS และ EBD, จุดยึดเบาะเด็ก และเฟืองท้าย Diff-Lock ส่วนรุ่น Xscape จะได้เพิ่มเติมดังนี้ ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมฯ, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ, ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน และระบบวัดแรงดันลมยาง

       จากการทดสอบของสื่อต่างประเทศกล่าวว่า "กำลังที่ออกมาจากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มีออกมาพอหอมปากหอมคอ เมื่อเร่งแซงในช่วงรอบของแรงบิดจะมีกำลังค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ได้ดึงมากมายเท่าไหร่ พวงมาลัยออกจะหนักมือไปสักหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นรถที่คุ้มค่าถ้าเทียบกับราคา ความสบายภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ และมันดีขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับ GWM Steed 5"

       GWM Steed 6 ในรุ่น SX จะมีราคาอยู่ที่ 8.28 แสนบาท และรุ่นท็อป Xscape ราคาอยู่ที่ 9.11 แสนบาท การมาบุกตลาดรถยนต์ในแถบนี้ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรสำหรับรถยนต์จากจีนคันนี้ ถึงแม้ว่าการออกแบบจะขาดเอกลักษณ์ของตัวเองไปบ้าง แต่ก็ยังดูโดดเด่นพอตัวเมื่อเทียบกับคู่แข่ง สมรรถนะอาจจะไม่เด่นมากแต่ก็คุ้มค่าเมื่อมองหาความประหยัดที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร นี่แหละจุดขายเขาล่ะ..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
************************************


GWM Steed 5

ที่มา leisurewheels.co.za

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ครั้งแรก! ภาพสเก็ตช์อย่างเป็นทางการของ Honda BR-V น้อง HR-V ที่ใช้พื้นฐานจาก Brio พร้อมเปิดตัวสิงหาคมนี้..!!

       ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าฮอนด้ากำลังเตรียมทำรถ Crossover SUV ขนาดเล็กที่จะใช้พื้นฐานมาจาก Honda Brio แต่จะพัฒนาจาก Mobilio ที่ใช้พื้นฐานจากบรีโออีกทีนึง..!!




       วันนี้ฮอนด้าได้เผยภาพสเก็ตช์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ Honda BR-V รถแนวครอสโอเวอร์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่จะเผยโฉมภายในงาน Gaikindo Indonesia International Auto Show 2015 ที่จะจัดขึ้นภายในวันที่ 20 ถึง 30 สิงหาคมที่จะถึงนี้

       Honda BR-V รุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Honda R&D Asia Pacific Co., Ltd. (HRAP) ในประเทศไทย โดยมุ่งเป้าหมายที่จะเน้นตลาดในเอเชีย BR-V ถือเป็นรถรุ่นที่สามที่พัฒนาโดย HRAP

       ฮอนด้าบอกว่า BR-V เป็นรถเอสยูวีขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง 3 แถว ที่จะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ที่จะช่วยให้สมรรถนะและการประหยัดน้ำมันที่ดี

       การออกแบบของรถรุ่นนี้ต้องการให้ดูมีความสปอร์ต บึกบึน และโดดเด่น ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ กันชนหน้าที่ดูแข็งแกร่ง เส้นสายด้านข้างจากภาพจะมีความคล้ายคลึงกับ Mobilio อย่างเห็นได้ชัด ตัวรถมีการยกให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่

       นอกจากนี้ในบางประเทศโดยเฉพาะประเทศอินเดียอาจจะมีตัวเลือกเพิ่มในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนในบ้านเราคาดว่าน่าจะเปิดตัวพร้อมขายภายในปี 2016!!



ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************

ที่มา indianautosblog.com

Ford เปิดสายการผลิต Ranger Minorchange พร้อมเตรียมเปิดตัวเดือนกรกฎาคมนี้..!!

       Ford Motor Company ฉลองเปิดสายการผลิตปิกอัพ Ranger ใหม่ อย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นที่รูปลักษณ์ที่และผสานเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียงทันสมัย SYNC 2 เตรียมเปิดตัวในไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ และส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก..!!


       
Ford Motor Company เปิดสายการผลิตของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่ง และอัจฉริยะยิ่งขึ้น พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถปิกอัพ ด้วยการผสานสมรรถนะที่เป็นเลิศและรูปลักษณ์ที่ดุดัน โดยเปิดการผลิตอย่างเป็นทางการ ณ โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือ เอเอที จังหวัดระยอง

       ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานของปิกอัพเรนเจอร์ และความเชี่ยวชาญของฟอร์ดทั่วโลก ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพ ด้วยการผสานสมรรถนะที่เหนือชั้นเข้ากับการดีไซน์ที่ล้ำสมัย และยังล้ำหน้าเหนือใครด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมาย

       ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน แข็งแกร่ง ที่จะสะกดสายตาทุกคู่เมื่ออยู่บนท้องถนน ห้องโดยสารภายใน มอบความสะดวกสบาย หรูหรา ทันสมัย พร้อมมอบความโฉบเฉี่ยวด้วยการออกแบบเส้นสายตามแนวขวางเพื่อให้ความรู้สึกที่โอ่อ่าและกว้างขวางยิ่งขึ้น

       Ford Ranger มาพร้อมสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม โดยได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาให้สามารถรับมือกับการเดินทางบนทุกพื้นผิวได้อย่างง่ายดาย พร้อมท้าทายทุกอุปสรรค ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดต่อสื่อสารได้ในทุกสถานการณ์ ด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในตัวรถรุ่นล่าสุด

       โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) จะเป็นฐานการผลิต Ford Ranger ใหม่ เพื่อส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย แฟซิฟิก ซึ่งในประเทศไทยจะเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ยังไม่มีวันและเวลาออกมา แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 16-19 ก.ค.นี้


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************

ที่มา Manager.com

Mazda ญี่ปุ่นประกาศยอดจอง MX-5 พุ่งทะลุ 5 พันคันภายในหนึ่งเดือน..!!

       Mazda MX-5 รถยนต์ Roadster ขวัญใจของคนทั้งโลก หลังจากที่ได้เปิดตัวไปก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย ถือแม้การออกแบจะไม่ได้อิงจาก KODO Design มากนัก เพราะยังต้องรักษาภาพลักษณ์เดิมไว้พอสมควร..!!


       ล่าสุด Mazda Motor Corporation ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศยอดจองของ All New Mazda MX-5 ที่เปิดตัวไปจนครบ 1 เดือนเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมียอดจองทั้งสิ้น 5,042 คัน แสดงให้เห็นถึงกระแสตอบรับอย่างดี

       ซึ่งยอดจองทั้งหมดจะแบ่งออกตามรุ่นต่างๆดังนี้ รุ่น S Special Package มียอดจองมากที่สุดถึง 52 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรุ่น S Leather Package มียอดจองคิดเป็น 39 เปอร์เซ็นต์ และรุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นจะมียอดจองคิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ และลูกค้าส่วนใหญ่ถึง 74 เปอร์เซ็นต์ ยังเลือกรุ่นเกียร์ธรรมดามากกว่าเกียร์อัตโนมัติอย่างชัดเจน

       และสีที่ลูกค้ามีการสั่งจองมากที่สุดก็คือสีแดง 
Soul Red (สีโปรโมท) มีมากถึง 41 เปอร์เซ็นต์ สี Ceramic Metallic มี 21 เปอร์เซ็นต์ และสีขาว Crystal White Pearl Mica มี 12 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมี Option พิเศษเพิ่มเติมอย่างเครื่องเล่น CD/DVD และระบบรับสัญญาณโทรทัศน์ดิจิตอลที่มีลูกค้าสั่งจองมากถึง 79 เปอร์เซ็นต์ ในรุ่น รุ่น S Special Package

       ในแง่ของกลุ่มคนแบ่งตามอายุผู้ใช้จะเห็นได้ว่ามีช่วงอายุระหว่าง 
40-60 ปี และลูกค้ายังบอกอีกว่า MX-5 คันนี้มีเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และการกระจายน้ำหนักของรถที่สมดุลกัน จึงทำให้มีความสนุกสนานในยามขับขี่ และพวกเขายังอยากจะขับรถคันนี้ทุกวันหยุดอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง..!!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************
ที่มา responsejp

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

MG เปิดตัวนวัตกรรม “InkaNet” มาตรฐานใหม่ในระบบการสื่อสารระหว่างรถกับผู้ใช้!!

       เอ็มจี เปิดตัวนวัตกรรม “inkaNet” พลิกโฉมวงการยานยนต์กับมาตรฐานใหม่ในระบบการสื่อสารระหว่างรถ-ผู้ขับขี่รถ!!


       เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ผู้จำหน่ายรถยนต์ “เอ็มจี” แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษ เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด “inkaNet” ระบบการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เอ็มจี ระบบแรกในตลาดที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่ใช้งานสะดวกถึง 3 ช่องทาง – สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และคอลเซ็นเตอร์ และให้ความปลอดภัยสูงสุดกับระบบติดตามรถยนต์แบบเรียลไทม์ที่จะติดตามตำแหน่งรถยนต์ได้ตลอดเวลา และการตรวจวิเคราะห์สภาพรถยนต์แบบรีโมท ช่วยเช็คความผิดปกติในระหว่างขับรถได้ทันที

       มร. หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดเผยว่า “inkaNet เป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต ที่สะท้อนเทรนด์การใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่ที่ซึ่งอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกวินาทีของชีวิต หรือที่เรียกว่า “Internet of Things” ยุคที่เราสื่อสารกันผ่านอุปกรณ์สื่อสารไร้สายซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เอ็มจีมองเห็นเทรนด์นี้ จึงได้เริ่มพัฒนาและเริ่มนำ inkaNet มาให้ลูกค้าได้ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 และวันนี้ เราได้นำเทคโนโลยีที่พิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วมาให้ลูกค้าในประเทศไทยได้ใช้งานกัน ช่วยให้ลูกค้าสั่งการและสื่อสารกับรถยนต์เอ็มจีได้ทุกที่ทุกเวลา
       นวัตกรรมระบบสื่อสารระหว่างคนกับรถที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายเพื่อความปลอดภัย สะดวก และมั่นใจทุกเส้นทางสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์เอ็มจีผสานความล้ำหน้าของเทคโนโลยียุค “Internet of Things” inkaNet ไม่ใช่แค่ แอพพลิเคชั่น แต่เป็น “ระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์เอ็มจีกับผู้ขับขี่”


       “inkaNet จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพราะเราจะนำเทคโนโลยีระดับโลกนี้มาติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่นของเอ็มจีที่จะออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเอ็มจีในประเทศไทยได้รับประโยชน์จากระบบการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างรถและผู้ขับขี่ที่พัฒนาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลกของเอ็มจี ที่เกิดจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เราเชื่อว่า inkaNet จะช่วยให้ลูกค้าชาวไทยได้รับความสะดวกและมั่นใจมากยิ่งขึ้นกับความปลอดภัยเหนือระดับจากเอ็มจี ด้วยเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ที่ทำให้รถและผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกัน มีข้อมูลเหมือนกัน” มร. หวู่ ฮวน กล่าว

       inkaNet คือระบบอัจฉริยะที่ใช้สื่อสารระหว่างรถยนต์เอ็มจีกับผู้ขับขี่ โดยเชื่อมต่อกันผ่าน T-Box ซึ่งเป็นชุดการสื่อสารบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายในรถที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ซึ่งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) พัฒนาขึ้นและเปิดตัวเป็นครั้งแรกในตลาดอื่นนเมื่อปีพ.ศ. 2553 และพัฒนาเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติมจากความบันเทิงแบบเรียลไทม์ในระยะแรกให้ครอบคลุมระบบนำทาง และความปลอดภัยของรถยนต์ 



       ฟังก์ชั่นหลักของ inkaNet ได้แก่ My Vehicle, Showroom แคตาล็อกข้อมูลรถและการขอจองคิวทดสอบรถ และ Personal Center สำหรับการลงทะเบียนและตั้งค่าต่างๆ

       ฟังก์ชั่นในกลุ่ม My Vehicle ประกอบด้วยระบบความปลอดภัยและระบบนำทาง โดยเอ็มจีได้พัฒนาระบบติดตามรถยนต์แบบเรียลไทม์ (Real-time Vehicle Monitoring) ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของรถยนต์ตลอดเวลา โดยเฉพาะในกรณีที่รถยนต์ถูกขโมยจะสามารถติดตามตำแหน่งของรถเพื่อค้นหารถได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบในการจับกุมคนร้ายได้ด้วย

       การตรวจวิเคราะห์รถยนต์แบบรีโมท (Remote Vehicle Diagnosis) เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้ตรวจสอบปัญหาด้านเทคนิคของเครื่องยนต์ ซึ่งนอกจากจะให้ความสะดวกแก่ผู้ขับขี่แล้ว ยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

       ระบบการแจ้งเตือนความผิดปกติ (Vehicle Alarm) อื่นๆ เช่น การเคลื่อนรถยนต์ที่ผิดปกติ การเตือนเมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ ที่ให้ความสะดวกและปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ขับขี่ในการติดตามสถานะและข้อมูลล่าสุดของรถ ฟังก์ชั่นการตรวจสอบสถานะการทำงานของรถ (Vehicle Status Update) เช่น ระยะทาง ปริมาณน้ำมัน ประตูปิดสนิทหรือไม่ เป็นต้น และฟังก์ชั่น การควบคุมการทำงานของรถ (Remote Vehicle Controlling) ซึ่งให้ความสะดวกในการสั่งเปิด/ปิดประตูรถ หรือเมื่อจอดรถในลานจอดขนาดใหญ่ที่อาจหารถไม่พบ ก็สามารถสั่งการผ่านแอพพลิชั่นบนสมาร์ทโฟนให้รถกะพริบไฟหน้าเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย

       นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ระบบนำทางที่บอกตำแหน่งของรถ และสถานที่ที่สนใจ (Point of Interest) รวมทั้งแนะนำเส้นทางที่มีการจราจรสะดวกที่สุดด้วย ในการใช้งานครั้งแรก ผู้ขับขี่จะต้องลงทะเบียนรถ และผู้ใช้เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถใช้งานผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และผ่านคอลเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ 
เพื่อสร้างระบบสื่อสารระหว่างรถและผู้ขับขี่ติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถรุ่นใหม่ทุกรุ่นตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นไป!!





ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************
ที่มา MG

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โหมโรง!! PickUp Truck Minorchange 2015 ในไทย..ก่อนทยอยเปิดตัวเร็วๆนี้..!!

       ปีนี้ถือว่าเป็นอีกปีที่ตลาดยานยนต์บ้านเราคึกคัก เพราะเนื่องจากมีรถเปิดตัวทั้งโมเดลเชนจ์และไมเนอเชนจ์ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะรถกระบะและกลุ่ม PPV ซึ่งเป็นรถที่คนไทยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ และวันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลและข่าวคราวความคืบหน้าของวงการรถกระบะที่จะทำการ Minorchange กันหลายรุ่นที่จะเปิดตัวในปีนี้!!



       เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงนี้ตลาดรถยนต์บ้านเราหดตัวลงกว่าปีที่ผ่านๆมาอย่างเห็นได้ชัด แต่กลุ่มของรถปิกอัพขนาดหนึ่งตันก็ยังอยู่ในความสนใจของชาวไทยไม่น้อย เพราะเป็นรถทำมาหากิน อเนกประสงค์และค่อนข้างจะตอบโจทย์ชีวิตคนไทย 

       จากการเปิดตัวของ All New Toyota Hilux Revo และ Ford Ranger ใหม่ ก็เป็นช่วงเดียวกันกับค่ายอื่นๆที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้จะทำการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มคุณภาพสินค้าให้เหมาะสมกับการแข่งขันกันในอนาคต รถรุ่นดังกล่าวก็จะมีทั้ง Mazda BT-50 Pro, Isuzu D-Max และ Chevrolet Colorado แต่ไม่นับรวม Nissan NP300 Navara และ Mitsubishi Triton เพราะพึ่งจะเปิดตัวรุ่นใหม่หมดไปเมื่อปีที่แล้ว

Ford Ranger 
       อ่านบทความ First Challenge : The New Ford Ranger Minorchange คลิกที่นี่ครับ


*************************************************************


       คันต่อมาก็เป็นพี่น้องฝาแฝดของเรนเจอร์นั่นแหละ Mazda BT-50 Pro Minorchange "ปิกอัพสไตล์เก๋ง" นี่เป็นคำสื่อสารง่ายๆเมื่อตอนเปิดตัวใหม่ที่มีดีไซต์แตกต่างจากรถกระบะทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ขายกันมานาน จน Revo ออกมาวิ่งทดสอบก็แล้ว Ranger MC ก็วิ่งทดสอบอวดหลายตลบก็แล้ว แต่ทำไมข่าวคราว BT-50 MC มันเงียบจังเลย ซึ่งผิดกันเรนเจอร์มากที่วิ่งแบบไม่พรางตัวได้ทุกวี่ทุกวัน

       แต่มันก็เป็นจริงอย่างคำเขาว่า "ความลับไม่มีในโลก" เพราะได้มีภาพแอบถ่าย BT-50 Pro Minorchange ที่ว่ากันว่าถ่ายมาจากเชียงใหม่ คันสีแดงที่ใครๆเห็นก็ยังแอบงงๆอยู่ว่านี่เปลี่ยนแล้วใช่ไหม และมีภาพอีกชุดที่ถ่ายจากสายการผลิตซึ่งพี่ MoO Cnoe แห่งเว็บ headlightmag ก็ได้แชร์ภาพมาให้ชมอีกที นั่นจึงทำให้เราเห็นภาพและมุมที่ชัดมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมก็จะมีไฟหน้ารมดำ กระจังหน้ามีกลิ่นอาย KODO Design ล้อลายใหม่ บันไดข้างใหม่ และไฟท้ายทรงเดิมแต่รายละเอียดในโคมจะต่างนิดหน่อย ไม่มาก แต่นั่นก็ยังถือว่าเปลี่ยนน้อยมากเมื่อเทียบกับฝาแฝด แต่ธรรมชาติของ Mazda เขาก็ไม่ได้ Minorchange เปลี่ยนมากมายอยู่แล้ว



Mazda BT-50 Pro Minorchange จะมีรุ่นให้เลือกทั้งหมด 16 รุ่นย่อย ได้แก่

Single Cab
- 2.2 S M/T
- 2.5 S Gasoline M/T

Open Cab ตัวเตี้ย
- 2.2 S M/T
- 2.5 S Gasoline M/T
- 2.2 V M/T

Open Cab Hi-racer (ขับ2 ยกสูง)
- 2.2 Hi-racer M/T
- 2.2 Hi-racer ABS M/T

Double Cab ตัวเตี้ย
- 2.2 S M/T
- 2.5 S Gasoline M/T
- 2.2 V ABS M/T

Double Cab Hi-racer (ขับ2 ยกสูง)
- 2.2 Hi-racer M/T
- 2.2 Hi-racer ABS M/T
- 2.2 Hi-racer ABS A/T
- 2.2 Hi-racer ABS Leather A/T

Double Cab 4x4
- 3.2 R ABS/DSC/Leather 4x4 M/T
- 3.2 R ABS/DSC/Leather 4x4 A/T






ส่วน Option เบื้องต้นจะมีดังนี้..
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง จากเดิม 2 ตำแหน่ง
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด ซ่อนไว้ใต้โลโก้
- เบาะนั่งด้านหลังให้
หมอนรองศีรษะ 3 ตำแหน่ง

สีตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่
- สีน้ำตาล Titanium Flash (ใหม่)
- สีขาวมุก Snow Flake (ใหม่)
- สีแดง True Red (ใหม่)
- สีดำ Black Mica
- สีเงิน Aluminum Metalic
- สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue
- สีขาว Cool White

       ส่วนเครื่องยนต์นั้นยังไม่มีข้อมูลออกมา แต่คาดว่าไม่น่าจะอัพเกรดเครื่องยนต์ตามเรนเจอร์ กำหนดการเปิดตัว 6 สิงหาคมนี้ครับ^^


********************************************************


       คันต่อมาเป็นขวัญใจทั้งกระบะขนผัก กระบะแต่งซิ่ง และเป็นรถยอดฮิตไปแล้วล่ะ Isuzu D-Max เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษครบรอบ 99 ปีแบรนด์อีซูซุ ถือว่าเป็นการทักทายน้องใหม่ Revo เบาๆพร้อมสะกิดบอกคนไทยว่า "นี่ๆ อย่าเหลิงรีโว่เกินไปนัก อย่าลืมว่าฉันยังอยู่!!" 

       Isuzu D-Max Minorchange จุดเด่นและจุดขายสำคัญของรุ่นนี้จะอยู่ที่เครื่องยนต์ ซึ่งในปัจจุบันจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร และ 3.0 ลิตร ส่วนในต่างประเทศอย่างอังกฤษจะมีการใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,000 รอบต่อนาที จะเห็นได้ว่าแรงม้านั้นจะเยอะกว่า 2.5 ลิตรเวอร์ชันบ้านเราที่มีเพียง 136 แรงม้าเท่านั้น และแรงบิดก็มากกว่าเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรอีกด้วย ดังนั้นเครื่องตัวนี้คาดว่าน่าจะมาแทนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรบ้านเรา ส่วนขุมพลังเรือธงใหม่ที่จะมาแน่ๆนั้นจะมีการลดซีซีลงเหลือเพียง 1.9-2.0 ลิตรเท่านั้น ที่จะให้ทั้งพละกำลังที่ดีและประหยัดน้ำมันไปพร้อมๆกัน และมันกำลังจะเป็นรถกระบะขนาด 1 ตันที่มีเครื่องยนต์ Downsizing ความจุน้อยที่สุด 

       จะว่าไปแล้วคนไทยส่วนหนึ่งก็ยังมีความเชื่อว่าเครื่องยนต์ที่มีความจุน้อยๆกำลังจะเหี่ยวไม่แรง ความจุเยอะๆซี้แรงดีจะตาย แต่เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้มันไปไกลแล้วครับ เครื่องเล็กก็สามารถแรงกว่าเครื่องใหญ่ได้ และก็ไม่ได้กินน้ำมันไปกว่ากันเท่าไหร่ซะด้วย





       เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมามีคนในกลุ่ม Isuzu Club ได้โพสต์ภาพอีซูซุ ดีแมกซ์คันนึง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่ความพิเศษมันก็มีให้เห็น เพราะว่าภาพนั้นแน่นอนว่าตัวถังเปลือกนอกมันไม่ต่างจาก D-Max ที่วิ่งทั่วๆไป แต่หารู้ไม่ว่าภายใต้ฝากระโปรงมันมีอะไรซ่อนอยู่??

       ภาพชุดนี้มันทำให้เราเชื่อได้ว่า D-Max คันนี้เป็นรถที่กำลังทำการทดสอบเก็บข้อมูลของเครื่องยนต์ใหม่ที่ว่ากันว่าจะมาแทนเครื่อง 3.0 ลิตรในรุ่นปัจจุบัน โดยเขาได้มีการลงเครื่องใหม่ในตัวถังเดิมเพื่ออำพรางไม่ให้เป็นที่สังเกต ถ้าหากว่าเราดูหน้าตาของเครื่องยนต์แล้วมันจะแตกต่างกับเครื่องบ้านเราชัดเจน 

       และภายในห้องโดยสารก็ยังมีอีกหลายจุดที่ต่างออกไป อย่างเช่นชุดมาตรวัดที่จะมีการเพิ่มรายละเอียดภายใน ไม่ว่าจะเป็นพื้นหลังของวัดรอบและความเร็ว พร้อมกับเพิ่มกรอบให้สูงขึ้น ที่สำคัญจะมีจอ MID แบบสี 3 มิติ ซึ่งคิดว่าในรุ่นขายจริงจะต้องมีลูกเล่นเยอะกว่านี้แน่นอน และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดก็ต้องมาแน่ๆ กำหนดการเปิดตัวน่าจะช่วงประมาณเดือนตุลาคม ที่จะเปลี่ยนทั้งเครื่อง ภายนอกภายในบ้างตามความเหมาะสม!!


********************************************************


       คันสุดท้ายจะเป็นใครไปไม่ได้ Chevrolet Colorado Minorchange นั่นเองครับ ถึงแม้ว่ายอดขายตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจะจมอยู่ท้ายตารางก็ตาม แต่เขาก็มีการขยับเขยื้อนพอสมควรนะ เมื่อตอนเปิดตัว All New ใหม่ๆก็จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า กับ 180 แรงม้า และดีไซต์สไตล์มะกันมันช่างโดนใจใครหลายคนจริงๆ

       ต่อมาเพียงไม่นาน Chevrolet ก็ทำการปรับเครื่องยนต์ของ Colorado เวอร์ชันใหม่ให้มีพลังที่แรงมากขึ้นกว่าเดิม โดยขนาดเครื่องยังเท่าเดิมทั้งสองตัว เครื่อง 2.5 ลิตร จะอัพแรงม้าขึ้นเป็น 163 ตัว เครื่องยนต์ 2.8 ขยับขึ้นเป็น 200 แรงม้า ที่ใครลองขับแล้วก็บอกว่า "เฮ้ย! แรงว่ะ" คนที่ถอยมาก่อนหน้ามองตาปริบๆเพราะพึ่งซื้อมาได้ปีเดียวเปลี่ยนเครื่องซะละ โถ่!! 

       ข่าวคราวเจ้าคันนี้ไม่ค่อยจะมีมากนักในรุ่นไมเนอเชนจ์ว่าจะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามเชฟฯก็ยังสู้ไม่ถอยซอยรุ่น Colorado High Country พร้อมชุดแต่งองค์ทรงเครื่องทั้งการ์ดกันชนหน้า ราวหลังคา บาร์ท้ายกระบะ และอื่นๆอีกมากมายในราคา 969,000 บาท และ 1,029,000 บาท จากรุ่นนี้เองจึงทำให้มองว่า Chevrolet Colorado Minorchange จะเปิดตัวทันปีนี้หรือไม่ เพราะตอนนี้ก็ต้องบอกว่ายังเงียบ ถ้าให้เดาก็น่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า



       ถึงอย่างไรก็ตาม หลายคนรวมถึงผมยังแอบหวังว่าอยากจะได้ Colorado Ver.US มาขายจังเลย เพราะใช้พื้นฐานเดียวกันกับบ้านเรา แต่ก็จะมีส่วนที่ต่างออกไปบ้างบางจุด และที่สำคัญหน้าตามันชั่งหล่อเหลาเอาการเหลือเกิน ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาวก็มีการนำเข้ารถรุ่นนี้ด้วย ซึ่งต้องมาลงที่ไทยเพื่อที่จะขนไปลาวอีกที ดูแล้วเหมือนเอามาอ้างหน้ายังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆ แต่ล่าสุดก็มีภาพ Spyshot เวอร์ชันตลาดโลก ออกมาวิ่งทดสอบกันแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าเราจะไม่ได้โฉม US 100%^^

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
************************************

ภาพมาตรวัด Ranger จาก headlightmag.com
ภาพหัวเกียร์และไฟส่องกระบะจาก Ford Jovprom
ข้อมูล BT-50 และภาพถ่ายคันสีน้ำตาลจาก headlightmag.com
ภาพ D-Max จากคุณ นพ วันชัย และ ISUZU CLUB

เปิดตัวแล้ว All-New Chevrolet Cruze 2016 สปอร์ตพริ้วไหว..ข้างในจุดเด่นเพียบ!!

       เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ All New Chevrolet Cruze 2016 ใหม่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีภาพหลุดในขณะวิ่งทดสอบที่จะเห็นเรือนร่างได้อย่างชัดเจน การเปิดตัวครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆอย่าง รวมถึงขนาดเครื่องยนต์ที่มีการลดซีซีลงอีกด้วย..!!





       หลังจากที่ All New Chevrolet Cruze เวอร์ชันจีนเปิดตัวไปแล้วนั้น ก็ถึงคราวโฉมตลาดโลกที่จะต้องเปิดตัวตามมา ทว่าการออกแบบดีไซต์มันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะใช้พื้นฐานเดียวกันก็ตาม

       รูปลักษณ์ภายนอกนั้นจะโดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงเรียวแหลมพร้อมโปรเจ็กเตอร์และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL ซึ่งจะอยู่ในโคมเดียวกัน ช่องรับลมด้านล่างขนาดใหญ่ที่สอดรับกับกรอบไฟตัดหมอกและเส้นสายที่ทอดยาวไปถึงด้านข้างตัวรถก็มีความพริ้วไหวกว่าเดิมอย่างชัดเจน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไฟท้ายแบบ LED มีสปอยเลอร์พร้อมกันชนแบบสปอร์ตได้ใจมาก โดยรวมถือว่ามีการออกแบบได้สปอร์ตและยังพริ้วไหวแฝงความหรูไว้ลงตัวพอสมควร แต่ถ้ามองเผินๆยังไงๆก็ต้องมีคนคิดว่ามันคือ Hyundai แน่ๆ 

       All New Cruze มีความยาวกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 68 มิลลิเมตร แต่เตี้ยกว่าเดิม 25 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 ยาวกว่ารุ่นเดิมอยู่ 15 มิลลิเมตร 




       ในส่วนของภายในมีการดีไซต์ที่ทันสมัยและลงตัว พวงมาลัยสามก้านที่มีปุ่มควบคุมต่างๆอ่านได้ง่าย และมีจอสี 3 มิติขนาด 4.2 นิ้วไว้กึ่งกลางระหว่างมาตรวัดรอบและความเร็ว แผงคอนโซลมีทั้งสีดำและครีมที่บุวัสดุนุ่มไว้ และเบาะหนังแท้พรีเมียม ระบบความบันเทิงเป็นอีกจุดที่ค่อนข้างจะเป็นไฮไลท์สำคัญ ด้วยระบบ MyLink ใหม่ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7-8 นิ้ว(แล้วแต่รุ่น) สามารถเชื่อมต่อระบบ Android รวมถึง Apple CarPlay ทั้งยังมีการรองรับ 4G LTE และ Wi-fi อีกด้วย



       ส่วนหัวใจของขุมพลังจะมีความน่าสนใจตรงที่เครื่องยนต์เบนซิน Ecotec ความจุ 1.4 ลิตร 4 สูบ ฉีดตรง เทอร์โบ ที่ใช้วัสดุอลูมิเนียมและวัสดุแรงเสียดทานต่ำช่วยให้มีน้ำหนักที่เบาลง โดยให้พละกำลัง 153 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 240 นิวตัน-เมตร ที่ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งทาง GM ยังเครมว่าสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 8 วินาทีเท่านั้น และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 16.94 กิโลเมตรต่อลิตร(ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)

       ระบบความปลอดภัยก็ยังจัดมาให้แบบเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ และถุงลมนิรภับ 10 ตำแหน่ง (คู่หน้า กันเข่าคู่หน้า ด้านข้าง ม่าน และด้านหลัง) ซึ่งจะให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านเมื่อถอยหลัง, ระบบป้องกันการออกนอกเลน, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ และระบบเตือนความดันลมยาง

       ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการสื่อสาร GM ยังเผยว่า "Cruze เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 2008 ซึ่งมียอดขายทั่วโลกไปแล้วกว่า 3.5 ล้านคัน ถือเป็นรถอีกรุ่นที่ขายดีที่สุดคันหนึ่ง..All New Chevrolet Cruze รุ่นใหม่นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นมากในเวลานี้ เพราะความโดดเด่นในหลายๆด้าน รวมถึงการใช้ชิ้นส่วนโลหะที่สามารถทำให้น้ำหนักตัวรถลดไปกว่า 113 กิโลกรัม ทั้งนี้เรายังมีความมุ่งมั่นและมั่นใจอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์ระดับโลกของจีเอ็มที่จะเป็นรถยนต์ท​​ี่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา"

       All New Chevrolet Cruze 2016 ใหม่ จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐฯเป็นที่แรก ซึ่งในไทยเองก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่า GM ยังจะอยากทำตลาดรถยนต์นั่งในอาเซียนต่อหรือเปล่า หลังจากที่ยุติการผลิต Sonic และ Spin ทั้งในไทยและอาเซียนไปแล้ว เพราะทิศทางตอนนี้ GM ยังมุ่งไปหารถกระบะและรถ SUV มากกว่า..!!





ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************

ที่มา caradvice.com

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Tata Nano GenX มียอดจอง 3,000 คันภายในเดือนเดียว และส่วนใหญ่เลือกใช้เกียร์ AMT!!


       Tata Nano รถยนต์ขนาดเล็กจากอินเดียที่เปิดตัวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา และก็มีโอกาศมาทำตลาดในไทยด้วย ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ทาทา อินเดียก็ได้เปิดตัวรุ่นไมเนอเชนจ์ Nano GenX ที่มีการปรับแปลงรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูน่าคบหามากขึ้น..!!

       หลังจากที่ Tata Nano GenX เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2015 ที่ผ่านมา ต่างก็มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และมียอดจองไปกว่า 3,000 คันภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ได้ทำการส่งมอบไปแล้วประมาณ 1,000 คัน จึงต้องเร่งการผลิตเพื่อที่จะส่งรถให้ลูกค้าเร็วขึ้น

       "ภายในระยะเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ จากยอดจองของลูกค้าส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 70 เลือกรุ่นเกียร์กึ่งอัตโนมัติ AMT โดยมมีราคาตั้งแต่ 1.42 แสนถึง 1.53 แสนบาท ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมาก" Mayank Pareek ประธานหน่วยธุรกิจยานยนต์บริษัททาทา กล่าว

       
Tata Nano GenX จะใช้ระบบเกียร์แบบ AMT F-Tronic 5 สปีด ที่ให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 21.9 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรุ่นยอดนิยมไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 4 สปีด ที่ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงถึง 23.6 กิโลเมตรต่อลิตรก็ตาม

       การเปลี่ยนลุคในครั้งนี้ถือว่าเข้าตาชาวอินเดียมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า กระจังหน้า กันชนท้ายและสีแดงใหม่ ส่วนภายในก็ยังสามารถจุสัมภาระได้ถึง 110 ลิตร 
และ 94 ลิตรในรุ่นเกียร์ AMT..!!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************
ที่มา indianautosblog.com

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อะไรนะ? Toyota GT-86 โฉมต่อไปอาจใช้พื้นฐานจาก Mazda MX-5..!!

       หลังจากที่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Mazda ในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกันอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งน่าจะทำให้ทั้งสองค่ายได้รับผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน..!!


       แต่ล่าสุดรายงานข่าวจาก 
motoring ออสเตรเลียเผยว่าโตโยต้ากำลังคบคิดเอารถสปอร์ตอย่าง Toyota GT-86 เจเนอเรชันถัดไปจะเตรียมใช้พื้นฐานมาจาก All New Mazda MX-5 ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้

       แสดงว่า Mazda MX-5 โฉมนี้จะไม่เพียงปล่อยแพลทฟอร์มให้กับ Fiat 124 Spider รถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นเดียว เพราะเมื่อทำการปล่อยให้โตโยต้าในการพัฒนาในตัว GT-86 ด้วยแล้ว Subaru BRZ ก็ย่อมที่จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย

       Toyota GT-86 โฉมต่อไปจะต้องใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหลังที่มีขนาดตัวถังที่เล็กลงและมีน้ำหนักที่เบาลง ที่สำคัญอาจจะมีการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบเพื่อที่จะได้เพิ่มความเร้าใจในการขับขี่มากขึ้น ซึ่งจะว่าไปแล้วมาสด้า เอ็มเอ็กซ์ห้าก็ดูจะเข้าท่าที่สุด

       ถึงตอนนี้อาจจะยังไม่ชัดเจนนักกับการตัดสินใจครั้งนี้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานต้องมีความกระจ่างขึ้นแน่นอน 
Toyota GT-86 ยังมีแผนจะเผยโฉมรุ่นที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตกแต่งเล็กๆน้อยๆจากสนามแข่ง ซึ่งจะได้เจอในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2015 ที่จะถึงนี้!!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************

ที่มา : motoring.com.au

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

คุณได้ไปต่อ! All New Mitsubishi Lancer เดินหน้าโครงการ..ขอเวลาอีกไม่นาน!!

       เหมือนเป็นหนังชีวิตยังไงไม่รู้สำหรับ Mitsubishi Lancer รุ่นใหม่ที่หลายคนยังเฝ้ารอว่ามิตซูฯจะยังปล่อย Generation ใหม่ออกมาหรือไม่ หรือจะถูกเก็บเข้ากรุไปอีกคันซะแล้วหรือ..!!


       All New Mitsubishi Lancer โฉมต่อไปที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ากำลังจะไปจีบค่ายนั้นซบค่ายนี้ให้มาแบะมือร่วมกันพัฒนารุ่นต่อไป แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องรอเก้อราวกับว่า "ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับในขณะนี้" ซึ่งมันไม่เป็นผลดีแน่หากเวลามันล่วงเลยมากไปกว่านี้

       ล่าสุด Mitsubishi ได้เติมแรงฮึดลุกขึ้นกร้าวจะพัฒนามิตซูบิชิ แลนเซอร์ ด้วยตนเอง พร้อมทุ่มทุนครั้งใหญ่ในโครงการนี้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบและแน่นอนว่าจะมีหน้าตาไปในทิศทางเดียวกันกับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใหม่



       อย่างไรก็ตาม Mitsubishi ยังเดินหน้าในการเจรจาหาพันธมิตรในการร่วมพัฒนาเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งก็หวังว่าจะการเจรจาครั้งนี้จะลุล่วงไปด้วยดีและไม่เสียเวลาต่อไปอีก ก็ต้องดูกันต่อไปว่าคู่พันธมิตรนี้จะเป็นใคร ถ้าตกลงกันได้เร็ว โอกาสที่จะได้เห็นโฉมใหม่ก็จะเร็วตามไปด้วย 

       ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดเวลาการเปิดตัว Lancer รุ่นใหม่ได้ แต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ปีแน่ๆ ถึงจะสามารถตกลงกันเสร็จภายในปีนี้ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นทางมิตซูฯเองก็จะทำการ Big Minorchange ครั้งใหญ่ให้กับแลนเซอร์รุ่นปัจจุบันที่จะมีกลิ่นอายแบบ Dynamic Shield ถือเป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอรุ่นใหม่ไปในตัว

       นอกจากนี้ยังมีคนทำภาพ Rendering ของ All New Mitsubishi Lancer ที่มีการออกแบบ Dynamic Shield ป่นเข้ามาด้วย ยังไงก็ดูไปพลางๆก่อนโฉมจริงจะมาละกันครับ^^


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************

ที่มา Indianautosblog.com
ภาพจาก behance.net

โตโยต้าดึง Adam Levine "Maroon 5" เป็นพรีเซนเตอร์ให้ Toyota Corolla Altis..!!

      โตโยต้า จัดเต็มแบบไม่ยั้งสำหรับพรีเซนเตอร์ดาวดังระดับโลกแทบทั้งนั้น ซึ่งในคราวนี้เองก็ได้ “อดัม เลอวีน” วง Maroon 5 มาเป็นพระเอกให้กับ Corolla Altis พร้อมเพลงประกอบหนังโฆษณา “Sugar” ใหม่!!


       “โตโยต้า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ Adam Levine สุดยอดนักร้องนำจากวง Maroon 5 ซึ่งเป็นวงดนตรีชื่อดังระดับโลกมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ โคโรลล่า อัลติส ด้วยบุคลิกอันโดดเด่น มีความสามารถหลากหลาย และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของ โคโรลล่า อัลติส ยนตรกรรมที่โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ตอกย้ำความเป็นรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทยที่ประสบความสำเร็จจนสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยการโฆษณาครั้งนี้ได้ต่อยอดแนวความคิดเดิมจากภาพยนต์โฆษณาที่ผ่านมาซึ่งแสดงให้เห็นถึง “การถอดบทบาทที่ถูกกำหนดไว้ สู่ความเร้าใจที่เราเลือกเอง” โดยจะเริ่มโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป” 


       "บริษัทเลือกสุดยอดนักร้องนำชื่อดังระดับโลก อดัม เลอวีน จากวง Maroon 5 เป็นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์อันโดดเด่น สะท้อนถึงตัวตนของกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้รถยนต์ โคโรลล่า อัลติส ภายใต้คอนเซปต์ BE AT YOUR MOST EXCITED” วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว

       ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ ในการร้องและแต่งเพลงทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Commentator ของรายการประกวดร้องเพลงชื่อดัง The Voice ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ Adam Levine ยังมีผลงานการแสดงภาพยนต์ที่โด่งดังเรื่อง “Begin Again”

       ใครที่ชื่นชอบ Maroon 5 ก็เตรียมติดตามภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ พร้อมกับเพลง “Sugar” จากอัลบั้มล่าสุด ‘V’ ภายใต้คอนเซปต์ “BE AT YOUR MOST EXCITED” ทางโทรทัศน์ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไปครับ!!


Corolla Altis – This is my Excitement (Adam Levine)


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************

ฮอนด้าญี่ปุ่นเปิดตัว Honda Grace LX ใหม่ เพิ่มทางเลือกสำหรับคนรักเบนซิน..!!



       ก่อนหน้านี้ใครจำได้บ้างว่า Honda ญี่ปุ่นได้เปิดตัว City เจอเนอเรชันใหม่ในนาม Honda Grace ที่ใช้พลังงาน Hybrid เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และก็มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี..!!

       ล่าสุด Honda ได้เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้นด้วยการปล่อย Honda Grace LX ในเวอร์ชันเครื่องยนต์เบนซินปกติในญี่ปุ่น ในการออกแบบจะมีความแตกต่างในรายละเอียดจากรุ่น Hybrid เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่จริงมันก็เหมือนบ้านเราแบบเป้ะๆเลยล่ะ


       ภายในก็ไม่ได้มีความแตกต่างมาก เพียงแต่จะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมแอร์ตอนหลัง, ระบบกรองอากาศพลาสมาคลัสเตอร์, ระบบกุญแจแบบ Smart Key รวมถึงเมื่อกดสัญญาณล็อกรถ ระบบจะพับกระจกมองข้างให้เองอัตโนมัติ

       ในส่วนของหัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ที่จะมีความต่างจาก City บ้านเรา โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาดความจุ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 132 แรงม้า ที่ 6,000 รออบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 155 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถทำอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 21.8 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น)

       Honda Grace LX ใหม่ ยังให้ความเป็นเอกลักษณ์ด้วยการเพิ่มสีแดง Premium Crystal Red Metallic สีใหม่พิเศษ Honda Grace LX ราคาเริ่มต้นที่ 4.8 แสนบาทในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อราคาที่ 5.4 แสนบาท..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
***************************************************************************************
ที่มา Responsejp

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Suzuki อินเดียเตรียมเปิดตัว Swift Range Extender Hybrid สุดประหยัดปลายปีนี้..!!

       ในช่วงงาน Auto Expo เมื่อปี 2014 ที่อินเดีย ซูซูกิได้เปิดตัวรถต้นแบบ Swift Range Extender รถยนต์พลังงานไฮบริดที่จะเน้นในด้านความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการทำตลาดจำหน่ายจริงในอนาคต...!!


       ล่าสุดรายงานจาก indianautosblog ก็ได้เผยว่า Swift Range Extender จะทำการเปิดตัวภายในปีนี้แน่นอน ซึ่งรถยนต์ประเภทนี้จะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าในประเทศอินเดีย ​​(FAME) แนวความคิดของรัฐบาลอินเดียได้ประกาศใช้ปีนี้เป็นปีแรก ถือเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้บริโภคและผู้ผลิตรถยนต์ไฮบริดรวมถึงรถพลังงานไฟฟ้าด้วย

       รัฐบาลอินเดียยังบอกอีกว่า "เราและ
ผู้ผลิตรถยนต์มีความมั่นใจในโครงการนี้ โดยรถที่จะเปิดตัวคันแรกภายในปีนี้ก็จะมี Swift Range Extender นอกจากนี้ยังมี Tata และ Mahindra ที่สนใจในโครงการอีกด้วย

       
Swift Range Extender คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาดความจุ 658 ซีซี ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 73 แรงม้า สามารถทำอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้มากถึง 48.2 กิโลเมตร/ลิตร และแบตเตอรี่ไฟฟ้​​ายังสามารถวิ่งได้ถึง 25.5 กิโลเมตร

       การผลิตจะมีหลายชิ้นส่วนรวมถึงเครื่องยนต์ที่จะต้องนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น นั่นจึงทำให้ราคาของ 
Swift Range Extender สูงชึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีการรองรับการใช้ภาษีจากรัฐบาล (FAME) ที่ถูกลงเช่นกัน Suzuki Swift Range Extender อาจจะมาในรูปแบบ 5 ประตู(Swift) หรือ 4 ประตู(Dzire) ซึ่งจะเปิดตัวภายในปีนี้..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ>> https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars/1410003339233043
********************************************************************************************

ที่มา indianautosblog.com