วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

Honda เตรียมเปิดตัว UR-V รถเอสยูวีรุ่นล่าสุดเฉพาะเมืองจีน เม.ย.นี้!

       รถยนต์เอสยูวีครอสโอเวอร์จากค่าย Honda เป็นที่ทราบกันดีว่าจะมีรหัสต่อท้ายจากตักอักษรแรกว่า R-V จะเห็นได้จากรุ่น CR-V, HR-V, XR-V หรือ BR-V ที่เป็นน้องใหม่สุด!



แต่ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของรถ SUV ของฮอนด้ารุ่นใหม่อย่าง Honda Concept D ที่เผยโฉมไปในงานเซี่ยงไฮ้มอเตอร์โชว์ปีที่ผ่านมาว่าจะมีการเปิดตัวเวอร์ชันขายจริงในเดือนเมษายนนี้ และจะมาในชื่อใหม่ "UR-V"


Honda UR-V จะเป็นรถเอสยูวีระดับ Flagship แบบ 7 ที่นั่ง ที่น่าจะมีดีไซน์ไม่ต่างจากต้นแบบมากนัก คาดว่าจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ CVT Torque Converter ทั้งยีงมีระบบขับเคลื่อนแบบ AWD อีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอฟังความชัดเจนอีกที


        Honda UR-V จะถูกเปิดตัวอย่างเป้นทางการในงาน Beijing Motor Show 2016 ที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ และมีแนวโน้มว่าจะทำตลาดเฉพาะเมืองจีนเท่านั้น!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา autoplusid.com

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

เผยต่อเนื่อง Toyota Corolla Altis 2017 เวอร์ชันอเมริกา หน้าตาซนขึ้น ภายในปรับเล็กน้อย!

       ต่อเนื่องจากข่าวคราวของ Toyota Corolla Altis โฉมไมเนอร์เชนจ์เวอร์ชันยุโรปที่พึ่งมีการเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ล่าสุดโตโยต้าบรรเลงเพลงต่อด้วยการแนะนำ Corolla Altis Minorchange เวอร์ชันอเมริกาตามออกมาติดๆ!



ซึ่งการมาของ Altis ทั้งสองเวอร์ชันนี้แอบสังเกตอะไรได้บางอย่างว่า ทางโดโยต้านั้นไม่ได้มีการปล่อยข่าวออกมาแม้แต่น้อยว่าจะทำการเปิดตัวรถรุ่นนี้ คืออยู่ดีๆอยากจะเปิดก็เปิดอะไรประมาณนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากอยู่เหมือนกัน

กลับมาว่ากันต่อกับเจ้า Toyota Corolla Altis Ver.US 2017 นั้นจะมีความแตกต่างจากตัวยุโรปอย่างเห็นได้ชัด ดีไซน์จะค่อนข้างเอาใจวัยรุ่นซนๆอยู่สักหน่อย ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมการออกแบบช่องรับลมด้านล่างใหม่ให้ใหญ่ขึ้น และมีไฟ DRL ติดตั้งไว้ข้างๆกัน ล้ออัลลอยลายใหม่ปัดเงาสวยงาม ไฟท้ายปรับให้ดูสปอร์ตมากขึ้น



เข้ามาดูภายในห้องโดยสารกันบ้างดีกว่าครับ ซึ่งในตัวยุโรปหรือที่บ้านเราจะได้ใช้ ยังไม่มีภาพออกมาในตอนนี้ แต่คาดว่าคงไม่ต่างจากตัว US เท่าใหร่ แผงคอนโซลหน้านั้นคงรูปแบบเดิมไว้ แต่จะมีการปรับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่นช่องแอร์ที่ชิดประตูทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นทรงกลม และมีการจัดระเบียบใหม่บริเวณแผงควบคุมเครื่องเสียงและควบคุมเครื่องปรับอากาศ เพิ่มมิติคอนโซนฝั่งผู้โดยสารให้นูนออกมามากกว่าเดิม ส่วนจอสัมผัสมีการขยายใหญ่ขึ้นเป็น 7 นิ้ว

ส่วนเครื่องยนต์ยังเป็นขุมพลังเดิม ทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง Toyota Safety Sense ไม่ว่าจะเป็นระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน และระบบป้องกันการชนด้านหน้าตรง พร้อมชะลอความเร็วหรือเบรคอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จะสามารถตรวจจับคนเดินทางเท้าได้อีกด้วย

       Toyota Corolla Altis เวอร์ชันอเมริกาฯนี้ ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างแน่ชัด แต่คาดว่าคงได้ยลโฉมกันอีกไม่นานต่อจากนี้!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา worldcarfans

Mazda เปิดตัว MX-5 RF หลังคาแข็งเปิดประทุน ที่งาน New York Auto Show!

       Mazda MX-5 รถสปอร์ต Roadster ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่ง จากการเปิดตัวรุ่นหลังคาผ้าใบ ไปแล้วนั้น ล่าสุดก็เผยโฉมรุ่นหลังคาแข็งออกมาตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง!


Mazda MX-5 RF (Retractable Fastback) เวอร์ชันหลังคาแข็งนี้นอกจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ต่างไปจากเวอร์ชันหลังคาผ้าใบแล้ว กลไกของรุ่นหลังคาแข็งแน่นอนว่าต้องมีการทำงานที่ซับซ้อนมากกว่า โดยจะใช้เวลาในการเปิด-ปิดหลังคาเพียง 12 วินาที และทำงานในขณะรถวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. ซึ่งการสั่งงานนี้จะเกิดขึ้นได้จากการกดปุ่มเพียงหนึ่งครั้ง




ซึ่งการออกแบบกลไกการพับเก็บหลังคานี้ยังมีพื้นที่เก็บสิ่งของสัมภาระอยู่พอสมควร เพราะหลังคาถูกจัดเก็บในพื้นที่จำกัดได้นั่นเอง ส่วนสีตัวถังที่ใช้นั้นจะเป็นสีเงิน Machine Gray ที่ตัดกับหลังคาสีดำ ในส่วนนี้ยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะให้หลังคาเป็นสีเดียวกับสีตัวรถหรือไม่

ในด้านของเครื่องยนต์จะมีทั้งเบนซินขนาด 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร ทั้งยังมีการปรับเซ็ตพวงมาลัยใหม่และช่วงล่าง 


       โดย Mazda MX-5 RF จะจัดแสดงโชว์ในงาน NewYork Autoshow ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 3 เมษายนนี้ ส่วนราคาจะมีการเผยออกมาในช่วงปลายปีนี้!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา worldcarfans

ปรับใหม่แล้วนะ Toyota Corolla Altis Minorchange สวย เฉียบ เนี้ยบขึ้น!

       รถขวัญใจมหาชนชาวไทยอย่าง Toyota Corolla Altis จากการเปิดตัวครั้งแรกในโลกสำหรับ Generation นี้ก็มีอายุประมาณสามขวบเข้าไปแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องแต่งหน้าทาปากให้ใหม่!


Toyota Corolla Altis Minorchange 2017 นี้ได้ถูกเผยโฉมสู่สายตาชาวโลก โดยมีการปรับหน้าตาใหม่ และเพิ่มอุปกรณ์ออพชันเพิ่มเข้ามาต้อนรับคู่แข่ง All New Honda Civic ที่พึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ด้านหน้าของตัวรถนั้นได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความทันต่อยุคสมัยมากขึ้นแบบไม่อายใคร ไฟหน้าทรงใหม่เรียวแหลมสุดโฉบเฉี่ยวแบบ LED ชิ้นกันชนหน้าเพิ่มเส้นสายให้ดูปราดเปรียว หรูแอบสปอร์ตกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอารมณ์จะออกไปทาง Toyota Auris Minorchange



เส้นสายด้านข้างไม่เปลี่ยนไปจากเดิม นอกจากล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 และ 17 นิ้ว ส่วนไฟท้ายยังเป็นทรงเดิม แต่มีการปรับรายละเอียดให้มากขึ้น พร้อมไฟเบรคแบบ LED แต่เสียดายที่เรายังไม่ได้เห็นภายในว่าเปลี่ยนไปจากเดิมขนาดไหน

ทั้งนี้ยังได้มีการเพิ่มระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ Toyota Safety Sense อย่างเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน Pre-Collision System, ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน Lane Departure Alert, ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ และยังมีระบบเตือนการชนพร้อมชะลอความเร็วอัตโนมัติให้อีกด้วย


        Toyota Corolla Altis Minorchange 2017 จะเปิดตัวจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนในปีนี้ที่ยุโรป ส่วนตลาดอื่นๆ รวมถึงเมืองไทยคาดว่าจะได้พบตัวจริงถัดจากนั้นไม่นานนัก!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา worldcarfans

Mitsubishi เผยโฉม Attrage Minorchange ใหม่ ยังคงหน้าเดิม แต่เสริมท้ายใหม่!

       หลังจากที่ Mitsubishi ได้ทำการปรับโฉมให้กับรถเล็กอย่าง Mirage ในโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อหลายเดือนก่อน ในขณะเดียวกันมิตซูบิชิแคนาดาก็ได้ปล่อยภาพบั้นท้ายของ Attrage โฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา!


ล่าสุด Mitsubishi ก็ได้เผยโฉม Mirage G4 Minorchange หรือในบ้านเราใช้ชื่อว่า Attrage อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยในงาน New York Auto Show 2016 รูปลักษณ์นั้นไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าใดนัก มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่ให้รายละเอียดมากกว่ารุ่นเดิม

ภายนอกโดยเฉพาะด้านหน้ารถยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, กระจังหน้า รวมถึงล้อแม็กซ์ก็เช่นกัน ยังคงขนาด 15 นิ้วลายเดิม มีเพียงไฟท้ายเท่านั้นที่ปรับเส้นสายรายละเอียดภายในโคมให้ดูทันสมัยขึ้นมาหน่อยนึง



ในส่วนของภายในไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย แต่ว่ามีการเพิ่มระบบความบันเทิง Infotainment ที่สามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ ส่วนการตกแต่งภายในจะเน้นสีดำ Paino Black 





ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องเดิมขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 100 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และระบบเกียร์อัตโนมติ Invesc III CVT


        Mitsubishi Mirage G4 Minorchange จะเปิดตัวขายในสหรัฐฯ ช่วงกลางปีนี้ ส่วนบ้านเรานั้นพึ่งจะมีการปรับอุปกรณ์ใหม่ MY2016 ไปหมาดๆ การที่จะได้ใช้บั้นท้ายใหม่แบบนี้คงต้องรอดูกันต่อไป!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************

ที่มา netcarshow

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

ชมภาพรถกระบะต้นแบบ Chevrolet Colorado "Xtreme" พันธุ์แกร่ง!

       วันนี้จะพามาชมไฮไลท์สำคัญของ Chevrolet ในงาน Motor Show 2016 ซึ่งได้นำรถยนต์ต้นแบบมาจัดแสดงโชว์ เรียกได้ว่าเป็นรถกระบะพันธุ์แกร่งที่ชาวไทยให้กับติดตามอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็คือ Chevrolet Colorado นั่นเอง!

 (คลิกภาพเพื่อขยาย)

Chevrolet Colorado Concept ที่เอามาโชว์ในครั้งนี้จะมีชื่อต่อท้ายว่า "Xtreme" บ่งบอกถึงตัวตนใหม่ในรถกระบะพันธุ์แกร่งรุ่นปรับโฉม Minorchange ที่จ่อเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้ รูปแบบของการตกแต่งจะออกไปทางลุยๆ แบบเต็มขั้น ตัวรถนั้นถูกเน้นด้วยสีส้มสุดจี๊ด ไฟหน้าและกระจังหน้าถูหออกแบบใหม่ และได้เสริมกันชนหน้าทรงเท่พร้อมฝังวินช์ไว้อีกด้วย สอดรับกับคิ้วโป่งล้อที่พองออกมาครอบยางใหญ่สไตล์ออฟโรด พร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว

กระบะจะติดตั้งโรลบาร์ เช่นเดียวกับแร็กหลังคาที่มีแถบไฟ LED ไว้ส่องสว่างยามเข้าป่าในที่มืดๆ พร้อมราวไฟ LED มี Snorkel ช่วยในการลุยผ่านลำธารได้ดียิ่งขึ้น กันชนท้ายใหม่ และฝาท้ายสัญลักษณ์ Chevrolet
















ส่วนภายในถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ชุดเครื่องเสียงมีการจัดเรียงปุ่มควบคุมต่างๆ ใหม่ พร้อมจอสัมผัส 8 นิ้ว พร้อมระบบ My Link การตกแต่งยังเน้นโทนสีส้มเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลหน้าหรือเบาะนั่ง มาตรวัดใหม่ ทั้งยังเพิ่มในส่วนของมาตรวัดความเอียงของตัวรถอีกด้วย

       Chevrolet Colorado Minorchange จะแตกต่างจากตัวต้นแบบนี้พอสมควร แต่ภายในนั้นไม่น่าจะต่างไปมากเท่าใดนัก หากสนใจอยากจะพบตัวจริงสามารถไปชมได้ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี วันนี้ถึงวันที่ 3 เทษายนนี้!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

Suzuki Swift "Sai" ใหม่ พร้อมสีม่วง Moonlight Violet เปิดราคาที่ 599,000 บาท!

        ศึกอีโคคาร์กลับมาอีกครั้ง แต่ละค่ายต่างก็งัดไม้เด็ดออกมาฟัดกันอยู่เรื่อยๆ นอกจาก Toyota Yaris TRD Sportivo รุ่นที่ 2 ที่เราได้นำเสนอไปแล้วนั้น คราวนี้ถึงคิวของ Suzuki กันบ้าง เตรียมเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ Swift Sai!


สิ่งแรกที่สังเกตได้นั้นคือสีของตัวถัง เป็นสีม่วง Moonlight Violet ใหม่ ที่จะเป็นสีชูโรงของรุ่น Sai นี้นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีอีก 2 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl และสีขาว Snow White Pearl 

ภายนอกได้รับการออกแบบบางส่วนให้แตกต่างจากรุ่นปกติและรุ่น RX ที่มีขายอยู่ในขณะนี้ ไฟหน้ามัลติรีเฟรกเตอร์แบบฮาโลเจน ซี่ช่องรับลมด้านล่างเสริมโครเมี่ยม กรอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างยามกลางวัน DRL แบบ LED มาให้ ล้ออัลลอย 16 นิ้วใหม่ มีสติกเกอร์ติดฝาถังน้ำมันดีไซน์พิเศษด้วยวัสดุพิเศษ "Sai" และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยโลโก้ Emblem Sai Edition บริเวณฝากระโปรงท้าย


ภายในยังคงเดิม แต่มีการตกแต่งคอนโซลสีดำตัดกับสีเงิน จอแสดงผลแบบ MID (Multi Informatioin Display) เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ หุ้มหนังคุณภาพสูงกับผ้าชนิดพิเศษเข้าด้วยกัน พร้อมตัดด้วยการเดิมเส้นสีขาว นอกจากนี้ยังมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และอุปกรณ์เชื่อมต่อ USB และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.25 ลิตร กำลัง 91 แรงม้า แรงบิด 118 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ




ส่วนระบบความปลอดถัยก็จะมีมาให้ทั้ง ระบบเบรค ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

       Suzuki Swift Sai มีราคาอยู่ที่ 599,000 บาท (สีขาว Snow White Pearl เพิ่มเงิน 5,000 บาท) พบและสัมผัสตัวจริงได้ในงาน Motor Show 2016 วันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน 2559!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************

Honda ปรับสีสัน Scoopy i รุ่นปี 2016 ทั้งหมด 3 แนว 3 สไตล์สุดเก๋!

        AP Honda แนะนำ New Honda Scoopy i (Live Original) ใหม่ โดดเด่นด้วยลายกราฟิกสีสันใหม่สไตล์โมเดิร์นวินเทจ ราคาเริ่มต้น 4.65-5.00 หมื่นบาท!

Honda Scoopy i (Live Original) มาพร้อมกับความแนวด้วยดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์นวินเทจ วางเส้นสายและการเล่นสีแบบย้อนยุค โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ นั่นคือ รุ่น Club12, รุ่น Urban Team และรุ่น
 Prestige 


เริ่มจากรุ่น Club12 จะใช้กราฟิกและเฉดสีสไตล์อินดี้วินเทจ โดดเด่นด้วยล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว แบบ 7 ก้าน พร้อมยางแบบจุ๊บเลสสไตล์บิ๊กไบค์ ติดตั้งระบบกระจายแรงเบรกหน้าหลัง Combi Brake System พร้อมคาลิปเปอร์ 3 ลูกสูบ มีให้เลือก 3 คู่โทนสี ได้แก่ สีเหลือง, ดำ และสีขาว


ส่วนรุ่น Urban Team มาด้วยกราฟิกด้านข้างซ้ายขวาไม่เหมือนกัน เพิ่มความสดใสด้วยสีสันที่ตัดกันอย่างลงตัว ล้อ 14 นิ้ว มีให้เลือก 3 คู่โทนสีได้แก่ สีขาว-เขียว, ดำ-น้ำเงิน ดำ-แดง 


และรุ่น Prestige ที่ให้ความเรียบ เท่ ด้วยพาร์ทอินเนอร์สีทองและลวดลายสไตล์งานโครเมียม มีให้เลือก 3 คู่โทนสีได้แก่ สีดำ-น้ำตาล, แดง-น้ำตาล และขาว-น้ำตาล 

(รุ่น Prestige)

โดยทุกซีรีย์ติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์แท้พร้อมหลอดฮาโลเจน และวงแหวนบลูริง, เรือนไมล์แบบมัลติมิเตอร์ดีไซน์แตกต่างในแต่ละซีรีย์, กล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ความจุมากถึง 15.4 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบเจ็ตได้เต็มใบ

Honda Scoopy i (Live Original) มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 110 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ยุคใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาให้ดูแลรักษาง่ายขึ้น ให้แรงบิดเต็มพลังแต่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 53 กม./ลิตร (วัตตามมาตรฐาน สมอ. Mode ECE R40 ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก) ทั้งยังมีค่าไอเสียที่สะอาดถึงระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20

       Honda Scoopy i (Live Original) มาพร้อมราคาแนะนำที่ 46,500 บาท สำหรับ รุ่น Urban Team และ รุ่น Prestige ส่วนรุ่น Club12 ราคาแนะนำ 50,000 บาท พบได้ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************

Ford เตรียมเปิดตัว Fiesta รุ่น Black Limited สปอร์ตเร้าใจในราคา 7.19 แสนบาท!

        ใกล้จะถึงงาน Motor Show 2016 เข้าไปถึงที ค่ายรถต่างๆ ก็เตรียมส่งรถที่เป็นไฮไลท์สำคัญออกมากันเป็นว่าเล่น หนึ่งในนั้นคือ Ford ก็เตรียมเปิดตัว Fiesta รุ่นพิเศษ Black Limited ที่มีการตกแต่งให้สปอร์ตเข้มเต็มพิกัดกันเลย!

Ford Fiesta รุ่น Black Limited ได้รับการแต่งแบบสีทูโทนดำแดง โดดเด่นด้วยอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ชุดกระจังหน้าสปอร์ตขอบสีแดง 2 ชิ้น ล้ออัลลอยพ่นดำ กระจกมองข้างสีแดง กรอบไฟตัดหมอกแบบสปอร์ต ชุดสติ๊กเกอร์หลังคาแบบสปอร์ต สติ๊กเกอร์ประตูท้ายแบบสปอร์ต เน้นความสปอร์ตไม่ซ้ำใคร ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ 


ภายในได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารเน้นความสะดวกสบาย เพรียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อสื่อสาร ระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ (SYNC) ช่วยให้การสั่งการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง การใช้งานโทรศัพท์ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ภายในรถยนต์สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย มีปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ

เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ (Ti-VCT) สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า และแรงบิด 140 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ แบบ 6 สปีด ที่รวมคุณลักษณะของเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาเข้าด้วยกัน พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPAS) ที่ช่วยมอบประสบการณ์การควบคุมรถที่ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ระบบจะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ เช่น กรณีเข้าช่องจอด ก่อนจะปรับมาเน้นความแม่นยำเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง

Ford Fiesta มีเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่างๆ ดังนี้
- ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP)
- ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA)
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง (Rear Park Assist)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (Front Dual Airbags)


        ราคาของ Ford Fiesta รุ่น Black Limited รุ่น 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติจะอยู่ที่ 719,000 บาท สามารถสัมผัสตัวจริงได้ใน งาน Motor Show 2016 ครั้งที่ 37 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน 2559!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

กางสเปค : MG GS ในฐานะผู้มาใหม่ จะให้อะไรมาบ้าง? กับราคาค่าตัว 1.21-1.31 ล้านบาท!

       ยนตรกรรมสายพันธุ์อังกฤษอย่างแบรนด์ MG ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์โมเดลใหม่ MG GS รถอเนกประสงค์ Compact SUV ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของขุมพลัง 2.0 ลิตร เทอร์โบ 218 แรงม้า ซึ่งเราจะไปดูกันว่าเขาจะมีอะไรทำให้ตื่นตามตื่นใจกับราคาที่ตั้งมา 1.21 - 1.31 ล้านบาท!


การออกแบบของ MG GS นั้นจะมีความสะดุดตามากทีเดียว กับใบหน้าที่ถูกออกแบบให้ลงตัวและดุดันด้วยชุดไฟหน้า กันชนด้านหน้าสีดำพร้อมไฟ DRL แบบ LED และไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยลาย 5 ก้านขัดเงาขนาด 18 นิ้ว ไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกหลัง และท่อไอเสียคู่

ภายในในส่วนของคอนโซลหน้าจะออกแบบชุดเครื่องเสียงมาในทรงเหลี่ยม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว มีระบบนำทาง และเทคโนโลยี inkaNet ที่อุดมไปด้วยฟังก์ชัน 12 อย่างด้วยกัน



เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ
 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า ที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 2,500 - 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sportronic Transmission 6 สปีด สร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8.2 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้ออัตโนมัติ และยังสามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 ได้อีกด้วย



เรามาดู Option ที่ MG GS ใส่มาบ้างดีกว่า โดยจะมีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น 2.0T D 2WD ราคา 1,210,000 บาท และรุ่น 2.0T X AWD ราคา 1,310,000 บาท

รุ่น 2.0T D 2WD ราคา 1,210,000 บาท สิ่งที่จะได้มีดังต่อไปนี้
- ไฟหน้า Projector แบบฮาโลเจน
- ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างเลวากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED
- ไฟตัดหมอกหน้า
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
- ปลายท่อไอเสียโครเมียม
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18
- ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
- พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง และเข้า-ออก
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลังพับอิสระแบบ 60:40
- เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
- กระจกมองข้างปรับขึ้น-ลง อัตโนมัติฝั่งคนขับ
- กระจกมองหลังปรับตัดแสงอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ช่องชาร์จไฟ 12V ที่ห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง
- กุญแจอัจฉริยะ Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มเครื่องเสียง และโทรศัพท์
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว
- หน่วยความจำภายในเครื่อง 16 GB
- ลำโพง 8 ตัว
- ระบบนำทาง Navigation
- ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ AUX และ USB
- ระบบ inkaNet

รุ่น 2.0T X AWD ราคา 1,310,000 บาท สิ่งที่ได้เพิ่มเติมนั่นคือ
- ไฟหน้า Projector แบบ HID
- ระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า Headlight Washer
- ราวหลังคา
- หลังคา Sunroof เปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD



ส่วนระบบความปลอดภัยจะให้มาเท่ากัน ดังนี้
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรค EBD
- ระบบเสริมแรกเบรค EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อลดเกียร์ลงฉับพลัน MSR
- ระบบควบคุมการเบรคขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน HAS
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้าง AVH
- ระบบเบรคมือไฟฟ้า EPB
- จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับ พร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยตอนหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- กล้องมองภาพด้านหลัง
- สัญญาณกะระยะถอยหลัง
- กุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer


        MG GS จะมีสีตังถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีส้ม Burnt Orange/Black Top, สีขาว Arctic White/Black Top, สีเงิน Platimum Silver, สีน้ำตาล Mocha Brown และสีดำ Pitch Black!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************