วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ครั้งแรกในอาเซียน Honda CB190R เบิกทางบุกตลาดแล้วที่สิงคโปร์!

       Honda CB190R หลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศจีน ก็มีข่าวว่าอาจทำตลาดแค่ในจีนเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา Honda อาร์เจนตินากลับเปิดตัว CB190R ไปเป็นที่เรียบร้อย นั่นหมายความว่า CB190R ก็มีสิทธิ์ที่จะออกจำหน่ายในอีกหลายประเทศ


และนี่จะถือว่าเป็นครั้งแรกในอาเซียนที่ Honda CB190R เปิดตัวขายในประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีจำหน่ายที่เวียดนามอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็เป็นการนำเข้ามาจำหน่ายโดยผู้นำเข้าอิสระ ไม่ใช่การนำเข้าผ่านทางฮอนด้าโดยตรง

All New Honda CB190R จะมีขนาดตัว ยาว×กว้าง×สูง = 1,982 × 744 × 1,041 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 1,356 มิลลิเมตร ความสูงเบาะ 771 มิลลิเมตร น้ำหนัก 131 กิโลกรัม ซึ่งจะมีจุดเด่นที่ไฟหน้าใช้แบบ LED โช็คอัพหน้าแบบหัวกลับ USD มาตรวัดเรือนไมล์ดีไซน์ทันสมัย ซึ่งทรงจะคล้ายๆ CBR500R นอกจากนี้เบาะนั่งแบบตอนเดียว, ท่อไอเสียลอดใต้ท้อง และลายล้อแม็กซ์จะคล้ายของ CB650F



ระบบเบรคเป็นดิสก์หน้าขนาด 276 มิลลิเมตร ด้านหลัง 220 มิลลิเมตร ขนาดยางหน้า 110/70-17 ล้อหลังขนาด 140/70-17 เครื่องยนต์ขนาด 184 ซีซี จำนวน 1 สูบ SOHC ระบบหัวฉีด PGM-Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลัง 16 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 15 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์ 5 สปีด 


       แม้ว่าสิงคโปร์จะได้ยลโฉมเจ้า Honda CB190R ก่อนใครในอาเซียน แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวที่จะจำหน่ายที่อื่น แต่คิดว่าระแวกบ้านเราน่าจะมีหลายประเทศที่ได้ใช้ ส่วนเมืองไทยเองตัวที่จะมาต่อกรกับ Yamaha M-Slaz จะต้องมีความสมน้ำสมเนื้อมากกว่า CB190R อย่างแน่นอน!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา boonsiewhonda.com.sg

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เปิดสเปค Benelli TNT15 รถเน็กเก็ตพิกัด 150 ซีซี ล่าสุดรุกตลาดเวียดนาม!

       รถจักรยานยนต์ขนาด 150 ซีซี ถือว่าเป็นอีกพิกัดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะรถสไตล์เน็กเก็ตก็ถือว่ามาแรงพอสมควร ซึ่งค่าย Benelli เองก็เปิดตัวทำตลาด TNT15 เป็นที่เรียบร้อยในประเทศเวียดนาม!



อย่างที่ทราบกันดีว่า Benelli แบรนด์รถจากอีตาลีถูกเทคโอเวอร์โดยบริษัท Keeway ของจีนเข้าถือหุ้น ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าจะมีชิ้นส่วนหรือพาร์ทต่างๆของ Benelli และ Keeway จะออกมาคล้ายคลึงกันจากการแชร์ เช่นเดียวกับ Benelli TNT15 คันนี้

โดยการออกแบบก็จะมี DNA ทอร์นาโดของรุ่นพี่อยู่หลายส่วน ไฟหน้าแยกสูง/ต่ำในโคมเดียว ถังน้ำมันจุ 16 ลิตร พร้อมแฟริ่งด้านข้างถูกติดตั้งเข้ามาเพื่อเสริมตัวรถให้ดูแน่นขึ้น เบาะนั่งแยกสองตอน ซึ่งมีความสูงจากพื้น 780 มิลลิเมตร สวิงอาร์มแบบแขนคู่พร้อมโช็คอัพเดียวปรับระดับได้ ด้านหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิก



ระบบเบรคด้านหน้าเป็นดิสก์ ด้านหลังดรัม ยางหน้าขนาด 90/90 -ZR17 ยางหลัง 120/80-ZR17 น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 136 กิโลกรัม โดยบางชิ้นส่วนอย่างเช่นถังน้ำมัน แฟริ่งท้าย และไฟท้ายจะเหมือนกันกับ Keeway RKV200 และทรงท่อไอเสียจะเหมือนรุ่นพี่ Benelli TNT25 นั่นเอง

มาดูในส่วนของเครื่องยนต์กันบ้าง จะมีความจุ 148 ซีซี สูบเดียว 4 จังหวะ 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคาร์บูเรเตอร์ ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 12.06 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 11 นิวตันเมตร ที่  6,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ 5 สปีด

       Benelli TNT15 แม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจจะดูไม่หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับรถระดับ 150 ซีซี จากทางค่ายญี่ปุ่น แต่ทรงแบบนี้จะได้รับความนิยมในอินเดียพอสมควร ซึ่งการมาเปิดตัวในเวียดนามครั้งนี้ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดีอีกรุ่นหนึ่ง ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่าจะมาจำหน่าย แต่คาดว่าไม่น่าจะมา เพราะลูกค้าบ้านเรามองไปที่รูปทรงและเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา motosikal.info

ครั้งแรกกับภาพภายในของ Toyota C-HR ในไทยเจอกันปี 2018!

       เชื่อว่าสาวกโตโยต้าหรือใครก็ตามแต่เมื่อได้เห็นรูปร่างเจ้า Toyota C-HR แล้วล่ะก็ ต้องอยากเห็นอยากสัมผัสตัวจริงและอยากให้มาไทยอย่างแน่นอน ด้วยการออกแบบที่สวยสะดุดตาแฝงความแปลกเข้าไป ก็ทำให้ C-HR คันนี้ลงตัวไม่เบา!



หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Toyota C-HR ได้เดินทางไปโชว์ตัวมาแล้วหลายประเทศ แต่ยังไม่มีใครได้เห็นภายในเลยแม้แต่น้อย ซึ่งวันนี้เองทางโตโยต้าก็ได้เผยภาพภายในอย่างเป็นทางการแล้ว ไปดูกันครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

ภายนอกคงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก เพราะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว โดยจะมีมิติตัวถังดังนี้ ความยาว 4,350 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ความสูง 1,565 มิลลิเมตร และ 1,555 มิลลิเมตร ในรุ่น Hybrid ส่วนระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,640 มิลลิเมตร Toyota C-HR ตั้งใจคลอดออกมาเพื่อต่อกรกับ Nissan Juke, Honda HR-V, Mazda CX-3 และ Ford Ecosport นั่นเอง




ภายในจะเห็นความเลิศหรูอลังการพร้อมกับอารมณ์แปลกๆผสานเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งมองโดยรวมแล้วจะคล้ายกับพี่น้องร่วมสายเลือดอย่าง Toyota Prius กับ Toyota Sienta สิ่งแรกเลยที่โดดเด่นและเตะตาคือจอสัมผัสที่ชูตั้งไว้กลางคอนโซลเฉียงเข้าหาผู้ขับขี่ ถัดลงมาจะเป็นช่องแอร์และปุ่มควบคุมต่างๆ ตกแต่งด้วยสีดำ Piano Black

นอกจากนี้ยังมีการเดินแถบตกแต่งสีฟ้าตั้งแต่แผงประตูด้านข้าง คาดมาถึงคอนโซลหน้าและไปจบที่แผงประตูอีกฝั่ง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเวอร์ชั่น Hybrid ส่วนเวอร์ชั่นอื่นๆน่าจะต่างออกไป พวงมาลัยทรงสามก้านที่อุดมไปด้วยปุ่มมัลติฟังก์ชันและคุมเครื่องเสียงของ JBL มองลอดเข้าไปจะเห็นมาตรวัดสองวง วงซ้ายที่เห็นจะเป็นวัดมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่น Hybrid รุ่นอื่นคงเป็นวัดรอบ



บริเวณคอนโซลเกียร์จะมีที่วางแก้ว คันเกียร์หุ้มหนัง และเบรคมือแบบไฟฟ้า ซึ่งการตกแต่งภายในจะเน้นสีดำสลับน้ำตาลม่วงอ่อนๆ จะเห็นได้จากคอนโซลหน้าพลังจอสัมผัส แผงข้างประตู ที่พักแขน และเบาะนั่ง





เครื่องยนต์จะมีให้เลือกหลากหลาย เริ่มจากเครื่องเบนซิน 1.2 ลิตร Turbo กำลัง 116 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ทำอัตราการประหยัดได้ถึง 17.54 กม./ลิตร

เครื่องเบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid กำลัง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ
ต่อนาที แรงบิด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้า PMS กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ทำอัตราการประหยัดได้ถึง 27.02 กม./ลิตร

เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร กำลัง 150 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 193 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที 
เกียร์อัตโนมัติ CVT และเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร Turbo (สองเครื่องหลัง จะทำตลาดบางประเทศ)



       ส่วนบ้านเรา Toyota C-HR น่าจะเข้ามาทำตลาดในช่วงปี 2018 ซึ่งต้องรอดูอีกทีว่าเราจะได้ใช้เครื่องยนต์แบบใด ราคาก็น่าจะพอๆกับคู่แข่งที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าใครจะรอรุ่นนี้อีก 2 ปีค่อยเจอกันครับ ดูเหมือนจะนานแต่ก็แป๊บเดียวเองนะ!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา netcarshow.com

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ปิกอัพพันธุ์แกร่งรุ่นใหม่จาก Zhongxing (ZX Auto) เตรียมทำตลาดในแดนมังกร!

       บริษัทรถยนต์ในเมืองจีนแผ่นดินใหญ่อย่าง Zhongxing (ZX Auto) เตรียมเปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ที่มีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและดุดัน ซึ่งจะเป็นรถปิกอัพที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา!




รถปิกอัพรุ่นดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยชื่อออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจจะมีในนาม Dingzhuang Zhao ก็เป็นได้ โดยการออกแบบจะมาในสไตล์อเมริกัน กระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมชุดไฟหน้าดวงโต ที่จัดโปรเจกเตอร์และไฟหรี่แบบ LED มาให้

มุมมองด้านข้างดูแข็งแรงกำยำจากซุ้มล้อที่ตีโป่งออกมาแบบพองาม บวกกับล้ออัลลอยปัดเงาแบบ 6 ก้าน 16 นิ้ว ฝาท้าย, กันชน และไฟท้ายดีไซน์ออกมาได้ลงตัว ขนาดตัวรถจะมีความยาวทั้งสิ้น 5,341 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,885 มิลลิเมตร ความสูง 1,815 มิลลิเมตร (ในรุ่นขับสอง) และ 1,845 มิลลิเมตร (ในรุ่นขับสี่) ระยะฐานล้อ 3,230 มิลลิเมตร เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่พอๆกับ Ford Ranger และ Toyota Hilux Revo แบบไม่เป็นรองเลย



ส่วนขนาดกระบะจะมีความยาว 1,530 มิลลิเมตร กว้าง 1,620 มิลลิเมตร และสูง 515 มิลลิเมตร ขนาดยาง 265/70 R16 โดยรวมแล้วปิกอัพรุ่นนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Dodge Ram และ Toyota Tundra อยู่พอสมควร เห็นได้ชัดจากด้านหน้ารถ ส่วนหัวเก๋งกับกระจกมองข้างและไฟท้ายก็ไปคล้ายกับ Ford Ranger



ส่วนภายในนั้นก็มีภาพแบบจำลองหลุดออกมาเช่นกัน ซึ่งจะแฝงไปด้วยความหรูหราและทันสมัยเอามากๆ พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน มีจอสัมผัสกลางคอนโซล ซึ่งตำแหน่งการจัดวางต่างๆค่อนข้างดูง่ายและไม่รกตา

เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ ส่วนระบบความปลอดภัยเท่าที่ดูจากภาพจะมีเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า/ด้านหลัง และใต้กระจกมองข้างจะมีส่วนที่ยื่นลงมาด้านล่าง โดยปกติจะเป็นกล้องที่ติดตั้งไว้

       ปิกอัพรุ่นใหม่ของ Zhongxing (ZX Auto) จะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ในประเทศจีน ซึ่งรถกระบะรุ่นที่แล้วก็เคยทำตลาดในรัสเซียด้วยเช่นกัน และคงไม่มาบ้านเราอย่างแน่นอน!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา autohome.com.cn และ svopi.ru

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Honda ประเทศญี่ปุ่นปล่อยภาพ Honda Freed โฉมใหม่ คาดเปิดตัวเร็วๆนี้!

       Honda Freed ถือวาระที่จะต้องปรับโฉมโมเดลใหม่กันแล้ว และในที่สุดเราก็ได้เห็นภาพแรกที่ทาง Honda ประเทศญี่ปุ่นเป็นคนปล่อยออกมาผ่านเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อย!




ภาพแรกของ Honda Freed โฉมใหม่นี้ ทาง Honda ประเทศญี่ปุ่นเป็นคนปล่อยมาเองผ่านเว็บไซต์ของตน หลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีภาพหลุดสิทธิบัตรในหลายๆมุมออกมายั่วน้ำลาย และแว่วๆว่าจะเปิดตัวอีกสองเดือนข้างหน้า

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต้องบอกได้เลยว่าปรับปรุงแทบทุกจุด ถึงแม้ว่ารูปแบบดีไซน์จะไม่ทิ้งไปจากเดิมมากนักก็ตาม ด้านหน้าจะเห็นกระจังหน้าแบบใหม่ที่ใช้ในรถฮอนด้ายุคนี้ ซึ่งแอบคล้าย BR-V อยู่เหมือนกัน กันชนด้านหน้ารวมถึงด้านข้างจะมีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและทันสมัยมากกว่าเดิม



(ภาพสิทธิบัตร)

กรอบกระจกหน้าต่างบานสุดท้ายยังคงทำให้เหลี่ยมในตอนท้าย แต่มีการดันมุมให้สูงขึ้นกว่าเก่า ไฟท้ายแนวนอนที่จะกินเนื้อที่เข้ามาถึงฝากระโปรงหลัง ชุดสเกิร์ตหลังจะเซาะกรีดลายทั้งสองข้าง ให้อารมณ์สปอร์ตพอสมควร และที่สำคัญคือเอกลักษณ์ประตูบานหลังเปิดสไลด์ทั้งสองฝั่ง

เครื่องยนต์นั้นคาดว่าน่าจะใช้เครื่องบล็อกใหม่ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่กำลังทำการทดสอบอยู่ในขณะนี้ และจะไปประจำการอยู่ใน All New Civic เร็วๆ นี้อีกด้วย

       กำหนดการเปิดตัวในญี่ปุ่นน่าจะเกิดขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ส่วนในบ้านเราก็ถือว่ายังมีความหวังกับรุ่นนี้อยู่ แม้ว่ายุติการนำเข้ามาจำหน่ายในไทยแล้ว แต่คาดว่าปลายปีนี้ทางโตโยต้าอาจมีการขยับรถ Segment นี้ ก็เป็นไปได้ที่ฮอนด้าจะเอา Honda Freed โฉมใหม่เข้ามาเสริมทัพอีกครั้ง!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา honda.co.jp

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

หลุด! Honda Jade Minorchange เวอร์ชันจีน เปลี่ยนใช้ไฟหน้า Full LED!

       Honda Jade รถมินิแวนที่มีจำหน่ายในหลายประเทศ รวมถึงในจีนด้วย ซึ่งวันนี้สื่อสำนัก autohome.com ของจีนก็ได้เผยภาพแอบถ่าย Honda Jade Minorchange ที่มีการปรับเปลี่ยนไฟหน้ามาใช้แบบ Full LED ตามสมัยนิยม!



ภาพแอบถ่ายชุดนี้ถูกแชะจากในโรงงาน โดยในภาพจะเห็นหลายๆส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เริ่มจากไฟหน้าแบบ Full LED ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ Honda Accord และ Honda Civic ใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์สำหรับรถฮอนด้ายุคนี้ไปเสียแล้ว

ต่อมาเป็นกระจังหน้าที่เพิ่มแถบสีดำและโครเมียมเข้าไป กรอบไฟตัดหมอกด้านล่างก็เปลี่ยนใหม่คล้ายกับ CR-V และบั้นท้ายมีการออกแบบกันชนหลังใหม่ และเพิ่มรายละเอียดในโคมไฟท้ายให้มีสีสันและทันสมัยมากกว่าเดิม




Honda Jade โฉมนี้จะผลิตขึ้นโดยการร่วมมือของบริษัท Dongfeng-Honda ซึ่งจะมีความยาว 4,645 มิลลิเมตร กว้าง 1,775 มิลลิเมตร สูง 1,500 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,760 มิลลิเมตร

ส่วนเครื่องยนต์นั้นจะเหมือนกับ Honda Jade RS ที่ขายในประเทศญี่ปุ่น เป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ ภายใต้เทคโนโลยี Earthdreams ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 203 นิวตันเมตร ที่ 1,600-5,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 18 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐาน JC08)


       สื่อจีน autohome.com เผยว่า Honda Jade Minorchange จะเปิดตัวในตลาดจีนช่วงปลายปี 2016 นี้!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา autohome.com.cn

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ทีเซอร์แรก Mazda 3 Minorchange ถูกตีพิมพ์แล้วในญี่ปุ่น พร้อมเครื่องใหม่ 1.5 ดีเซล!

       Mazda 3 โฉมปัจจุบันเปิดตัวทำตลาดในไทยราวๆ 2 ปี ก็เข้าช่วงที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน Minorchange ในตลาดโลกกันแล้ว ซึ่งในบ้านเราก็มีหวังที่จะได้เห็นตัวเป็นๆปลายปีนี้!

หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่ภาพหลุดโบว์ชัวร์ของ Mazda 3 Minorchange ด้านหน้ารถกันจะจะ ทำให้เห็นการรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่ต่างไปจากเดิม และล่าสุดทีเซอร์ชุดแรกก็ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ในญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย (ในญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่า Axela)


การออกแบบจะไม่ทำให้ต่างไปจากเดิมมากนัก ปรับในจุดที่สมควรจะปรับ อย่างเช่นไฟหน้าจะเพิ่มวงแหวนไฟ DRL ให้เข้มและหนาขึ้น กระจังหน้าโครเมียมเพิ่มความอวบของเส้นสาย ทำให้คล้ายรุ่นน้อง Mazda 2 และ CX-3 และปรับทรงไฟตัดหมอกเสียใหม่

ในส่วนภายในจะปรับพวงมาลัยให้ดูสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงปุ่มควบคุมต่างๆ และคอนโซลเกียร์กับปุ่มควบคุม MZD Connect ก็ถูกจัดระเบียบใหม่เช่นกัน พูดง่ายๆคือเอาความพอดีของ Mazda 6 และ Mazda CX-9 มาปรับใช้นั่นเอง


ในส่วนของเครื่องยนต์จะมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ เริ่มจากเครื่องดีเซล เทอร์โบ 1.5 Skyactiv-D ที่จำหน่ายในยุโรปก่อนหน้านี้ กำลัง 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร อีกตัวคือเครื่องดีเซล 2.2 Skyactiv-D กำลัง 175 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร ตัวเดียวกันที่ประจำการอยู่ใน CX-5

ต่อมาเป็นเครื่องเบนซิน 2.0 Skyactiv-G กำลัง 155 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตันเมตร ทั้งหมดจะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และสุดท้ายเป็นเครื่องเบนซิน 2.0 Skyactiv-Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร 99 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า แรงบิด 207 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติแปรผัน CVT

       กำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่นจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ซึ่งในบ้านเราอย่างเร็วที่สุดน่าจะได้เห็นในงาน Motor Expo ปลายปีนี้ อย่างช้าก็ต้นปี 2017!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา indianautosblog.com

Tata Xenon เปิดตัวรุ่นพิเศษ 'Evolve Limited Edition' เฉพาะตลาดแอฟริกาใต้!

        ถึงแม้ว่าตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง และแต่ละค่ายก็ทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับ Tata Xenon ค่ายรถจากอินเดียเห็นทีจะตามหลังอยู่หลายก้าว เพราะโมเดลนี้ลากขายมายาวนานมากกว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว!


ถึงกระนั้นเขาก็ยังเสริมเติมลูกเล่นต่างๆเท่าที่จะทำได้ ใส่ลงไปใน Tata Xenon หวังกระตุ้นยอดขาย ซึ่งล่าสุดก็ได้เผยโฉม Tata Xenon รุ่นตกแต่งพิเศษ Evolve Limited Edition เฉพาะแอฟริกาใต้เท่านั้น

Tata Xenon 'Evolve Limited Edition' จะมีตัวถังสีดำตัดกับลายสติ้กเกอร์สีขาวที่คาดบริเวณกระบะท้ายยาวมาถึงประตูบานหลัง ความแตกต่างจากรุ่นปกติถึงแม้จะมีไม่มาก แต่ก็มีการเสริมอุปกรณ์เพิ่มความแกร่งเข้ามาให้ ไม่ว่าจะเป็นกันชนด้านหน้าขนาดใหญ่ บันไดข้าง ล้ออัลลอยรมดำ กันชนท้ายโครเมียม และบาร์ท้ายกระบะพร้อมฝาปิด



ภายในยังไม่มีภาพออกมา แต่รายงานจากสื่อต่างประเทศบอกว่าจะมีการตกแต่งเบาะนั่งด้วยหนังแท้ และพรมปูพื้นสลักชื่อ 'Evolve Limited Edition' เอาไว้ มีจอสัมผัสขนาดใหญ่ พร้อมระบบนำทาง และบลูทูธ ส่วนระบบความปลอดภัยจะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า และระบบเบรค ABS

เครื่องยนต์ดีเซล VTT DICOR ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับสองล้อและสี่ล้อ

        Tata Xenon 'Evolve Limited Edition' จะมีค่าตัวในแอฟริกาใต้ 269,995 Rands คิดเป็นเงินไทยจะประมาณ 643,700 บาทเท่านั้น!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา rushlane.com

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Mazda มาเลเซียเรียก BT-50 และ Mazda 6 เข้ารับการแก้ไขถุงลมนิรภัย!

       จากข่าวฉาวของถุงลมนิรภัย Takata ที่มีความบกพร่องในการทำงานเพราะอาจมีเศษโลหะระเบิดออกมาในขณะที่ถุงลมนิรภัยทำงาน ส่งผลอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นอย่างมาก!

ด้วยเหตุนี้ทำให้ค่ายรถนยต์ที่ใช้ซัพพลายเออร์ถุงลมฯ รายนี้ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการประกาศเรียก Recall รถยนต์ของตนกลับมาแก้ไขกันเป็นว่าเล่นและมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา


ล่าสุด Mazda ประเทศมาเลเซียได้ประกาศ Recall เรียกรถรุ่น Mazda 6 (GG) ตั้งแต่ปี 2003 - 2007 และ Mazda BT-50 (J97M) รุ่นปี 2006 - 2011 เข้ารับการแก้ไข Inflators ชิ้นส่วนภายในที่อาจเกิดอันตรายได้เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน

Mazda 6 จำนวน 427 คัน จะต้องมีการแก้ไขทั้งฝั่งคนขับและฝั่งผู้โดยสาร ส่วน Mazda BT-50 จำนวน 576 คัน จะรับการแก้ไขเปลี่ยนเฉพาะฝั่งคนขับเท่านั้น ซึ่งการประกาศนี้ทางมาสด้าได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ และสามารถตรวจสอบเลขตัวถังได้ เมื่อลูกค้านำรถเข้ารับการแก้ไขจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

       ส่วนในบ้านเราที่น่าจับตามองนั่นคือ Mazda BT-50 ปี 2006 - 2011 ที่มีการผลิตในประเทศไทยว่าจะเข้าข่ายด้วยหรือไม่ คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา mazda.com.my

เทียบอัตราเร่ง ท็อปสปีด และการประหยัดของ Winner 150 และ Exciter 150!

       จากการที่ Honda ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่แนวสปอร์ตครอบครัว 150 ซีซี ไปในประเทศเพื่อนบ้านเรา ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะมาเมืองไทยหรือไม่ แต่แน่นอนว่าทุกคนต้องอยากรู้สมรรถนะเมื่อเทียบกับ Yamaha Exciter 150 ซึ่งเป็นคู่แข่งกันโดยตรง!


รถ Honda ที่เปิดตัวไปในระแวกอาเซียนเราจะมีด้วยกัน 3 ประเทศ ซึ่งมีชื่อแตกต่างกันไป ในประเทศเวียดนามจะใช้ชื่อว่า Winner 150 ส่วนประเทศอินโดนีเซียจะมีชื่อ Supra GTR 150 และในมาเลเซียจะมีชื่อว่า RS150R ในที่นี้เราจะขอเรียกชื่อ Winner 150 ก็แล้วกันนะครับ



การเปรียบเทียบในครั้งนี้จะมีส่วนอัตราเร่ง ท็อปสปีด รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ซึ่งทั้งหมดที่เรามานำให้ดูนั้นเป็นบททดสอบจาก warungasep.net สื่อจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณข้อมูลในส่วนนี้ด้วย แม้ว่า Winner 150 จะเข้ามาตีตลาดในบ้านเราหรือไม่นั้น เชื่อว่าหลายคนต้องอยากรู้ว่าทั้งสองรุ่นนี้เป็นอย่างไรกับบ้างถ้าเอามาเทียบกัน ก่อนอื่นเราไปดูรายละเอียดตัวรถกันก่อนดีกว่า...


จากสเปคจะเห็นได้ว่า Honda Winner 150 จะได้เปรียบ Yamaha Exciter 150 อยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังแรงม้าและแรงบิดที่มากกว่า ระบบเกียร์ 6 สปีด และขนาดยางหน้าที่ใหญ่กว่า แต่ Exciter 150 ก็มีน้ำหนักเบากว่าถึง 3 กิโลกรัม ต่อมาจะเป็นตัวเลขอัตราเร่ง ท็อปสปีด และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง


ถือว่า Honda Winner 150 เป็นรถที่สร้างอัตราเร่งดีกว่า Yamaha Exciter 150 ในทุกๆย่าน แม้ไม่ห่างกันมากก็ตาม ในส่วนของความเร็วสูงสุด Winner 150 ก็วิ่งได้มากกว่าอยู่ 8 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองก็ประหยัดกว่า 3.5 กม./ลิตร


       ตามข้อมูลก็ต้องยอมรับว่า Honda เตรียมตัวมาดี เพราะ Winner 150 เปิดตัวทีหลัง Exciter 150 ก็ต้องทำรถให้ออกมาเทียบเท่าหรือดีกว่าอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าไม่ห่างกันมาก ส่วนรูปร่างหน้าตาก็หล่อกันคนละแบบ ถึงตอนนี้ใครที่อยากได้ Exciter 150 ก็เดินเข้าโชว์รูมยามาฮ่าได้เลย ส่วน Winner 150 ต้องลุ้นหนักๆกับทาง AP เอาล่ะครับงานนี้!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา warungasep.net

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Toyota Corolla Altis รุ่นโฉม Minor Change เปิดผ้าคลุมแล้วที่รัสเซีย!

       หลังจากที่มีภาพอย่างเป็นทางการของ Toyota Corolla Altis โฉม Minor Change ออกมาก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดตัวกันสักที ซึ่งงานจัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย!



การเปลี่ยนแปลงหลักๆก็จะอยู่ที่การดีไซน์ด้านหน้ารถอย่างที่เราเคยนำเสนอไป ไฟหน้าเรียวแหลมที่ผสานไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED เข้าไปด้วย และปรับกระจังหน้าใหม่ให้รับกับไฟหน้า ชิ้นกันชนด้านหน้าจะกระจายซี่บริเวณช่องรับลมยาวไปถึงไฟตัดหมอก

ล้ออัลลอยขนาด และไฟท้ายดีไซน์ภายในโคมใหม่ ระยะใต้ท้องรถมีความสูงเพิ่มขึ้นจากเดิม 135 ซม. เป็น 150 ซม. เข้ามาดูภายในจะดูหรูหรามากขึ้น แม้จะมีรูปแบบไม่ต่างจากเดิม เพราะการจัดระเบียบเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น ช่องแอร์ ชุดเครื่องเสียง นาฬิกา ทำให้โดยรวมดูลงตัวมากขึ้นนั่นเอง




นอกจากนี้ในส่วนของพวงมาลัยไฟฟ้าก็มีการปรับเซ็ตใหม่ มีการเพิ่มและปรับปรุงวัสดุซับเสียง ทำให้เสียงรบกวนที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสารเงียบลง และเพิ่มระบบความปลอดภัยใหม่เข้ามาพร้อมติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน




เครื่องยนต์จะมีขนาดจะมี 3 ความแรงได้แก่ 1.3 ลิตร 99 แรงม้า แรงบิด 128 นิวตันเมตร อีกตัวเป็นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 122 แรงม้า แรงบิด 157 นิวตันเมตร และสุดท้ายเครื่อง 1.8 ลิตร 140 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT

       กำหนดการเปิดตัวในบ้านเราจะอยู่ในช่วงปลายปี 2016 ถึงต้นปี 2017 เพื่อออกมาต่อสู้กับ All New Civic และ Mazda 3 Minorchange ที่จะเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars
************************************
ที่มา drive2.ru