วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

Ford F-Series Super Duty 2017 เพิ่มความแกร่งก่อนขายในสหรัฐฯปลายปีหน้า!!

       จากที่ฟอร์ดได้เปิดตัว F-150 ไปแล้วนั้น รุ่นพี่ในตระกูล F-Series ก็ต้องตามมาเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดที่ฟอร์ดมียอดจำหน่ายปิกอัพสูงสุดในสหรัฐ..!!

ล่าสุด Ford ได้แนะนำ F-Series Super Duty รถกระบะฟูลไซส์ใหม่ที่มีการปรับทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน และยังรวมไปถึงงานวิศวกรรมตัวถังและเครื่องยนต์ให้มีความโดดเด่นมากขึ้นอีกด้วย


Ford F-Series ถือว่าทำตลาดและเปลี่ยนโฉมกันมามากถึง 13 เจนเนอเรชันเข้าไปแล้ว แต่สำหรับไลน์อัพ Super Duty นั้นถือว่าเป็นเจนเนอเรชันที่ 4 โดยการแนะนำครั้งนี้ฟอร์ดก็ยังแยกรุ่นและขนาดออกเป็น F-250, F-350, F-450 และ F-550 โดยจะคงเอกลักษณ์กระจังหน้าขนาดใหญ่เสริมโครเมี่ยมทรงบึกบึนไว้ ไฟหน้าแบบใหม่พร้อมหลอด LED ด้านข้างตัวรถติดตั้งช่องระบายอากาศพร้อมระบุชื่อรุ่นไว้ ขอบซุ้มล้อหน้าและหลังจะมาทรงโค้งเหมือนรุ่นที่แล้ว 

ไฟท้ายแบบใหม่พร้อมการดีไซต์ฝากระบะที่ดูดุดันมากขึ้นพร้อมสปอยเลอร์ท้ายกระบะที่ซ่อนบันไดและมือจับไว้ในยามที่ต้องขึ้นท้ายกระบะ โดยรวมถือว่าให้อารมณ์ที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน แชสซีส์ใหม่ที่ทำจากวัสดุเหล็กกล้าขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งลดอาการบิดของตัวถังได้ถึง 24 เท่าจากรุ่นเดิม ส่วนตัวถังด้านนอกทำมาจากอลูมิเนียมที่มีความยืดหยุ่น ทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 159 กิโลกรัม



ภายในห้องโดยสารยังเน้นความหรูหราที่แอบมีความบึกบึนเข้าไว้ด้วยกัน โดยพวงมาลัย เบาะนั่ง แผงข้างประตูและคอนโซลหน้าถูกห่อหุ้มด้วยหนังแท้ และระบบ Infotainment อย่างเครื่องเล่นวิทยุ CD/MP3 DVD ที่จะแสดงผลบนหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว พร้อมระบบ 
Sync 3 นอกจากนี้ยังได้เพิ่มกล้องรอบคันถึง 7 ตัวเพื่อลดจุดบอดจากการลากจูงทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลังตัวรถ และด้านหลังส่วนพ่วง




ในเรื่องของเครื่องยนต์จะมีให้เลือก 3 ขนาด เริ่มจากเครื่องดีเซล V8 ขนาด 
6.7 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 440 แรงม้า แรงบิด 118.8 กก.-ม. แรงม้าเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 40 ตัว ต่อมาเป็นเครื่องเบนซิน V8 ขนาด 6.2 ลิตร ที่ให้กำลัง 385 แรงม้า แรงบิด 55.9 กก.-ม. และเครื่องยนต์ V10 ขนาด 6.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 362 แรงม้า แรงบิด 63.1 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Torqshift-G

       Ford 
F-Series Super Duty จะเริ่มมีการจำหน่ายที่อเมริกาในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าคนไทยหลายคนถูกใจ แต่ฟอร์ดไม่เอามาขายบ้านเราแน่ๆ ถ้าอยากได้ก็ต้องสั่งนำเข้าอย่างเดียว..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ที่มา motortrivia

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

Nissan Altima/Teana ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้ทันสมัยขึ้น..!!


       Nissan Teana ในไทยนั้นถือว่ามียอดขายตามหลังเจ้าตลาดทั้งสองมาตลอดหลายเดือน แต่ในแถบอเมริกาที่ขายในชื่อ Altima กลับได้รับความนิยมจากสาวกนิสสันเป็นอย่างดี และแล้วก็ได้เวลาเปลี่ยนลุคปรับหน้าตาใหม่เพื่อเอาใมจแฟนๆมากขึ้น..!!

       Nissan Altima ใหม่ ได้มีการปรับหน้าตาให้เข้ากับการดีไซต์ของนิสสันยุคใหม่ ที่จะเห็นได้จาก Nissan Maxima หรือ Lannia ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดย Altima จะมาพร้อมกับเอกลักษณ์ที่กระจังหน้ารูปตัว V หรือ V-Motion พร้อมไฟหน้าทรงบูมเมอแรงที่จัดไฟส่องตอนกลางวัน DRL แบบ LED มาไว้พร้อมสรรพ



       ล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้งขนาด 17 และ 18 นิ้ว ส่วนท้ายนั้นยังคงเดิม ปลายท่อไอเสียคู่ และเปลี่ยนรายละเอียดในโคมไฟท้ายแบบ LED ที่เพิ่มความหรูหราได้มากขึ้น 

       Nissan Altima ได้รับการปรับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ลู่ลมมาตั้งแต่จากกระจังหน้าและแผงกันลมใต้ท้องรถ จึงทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd.) ต่ำเพียง 0.26 เท่านั้น

       ในส่วนของภายในนั้นแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นอกจากคอนโซลกลางบริเวณชุดเครื่องเสียงที่จะมีแถบสีเงินลากตัดไม่ต่อเนื่องกับคอนโซลชุดเกียร์ และช่องแอร์ใหม่ ส่วนระบบความบันเทิงสามารถเล่นได้ทั้งวิทยุ CD ที่จะแสดงข้อมูลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว และ 7 นิ้ว ที่มีระบบ Nissan Connect มาให้ เบาะนั่งและแผงประตูมีการปรับปรุงเรื่องวัสดุที่มีคุณภาพมากขึ้น


       เครื่องยังเป็นตัวเดิม ขุมพลังเบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลัง 182 แรงม้า (135 กิโลวัตต์) แรงบิด 243 นิวตันเมตร และถ้าต้องการความแรงขึ้นมาอีกต้องเครื่องเบนซิน 
V6 ขนาด 3.5 ลิตร ให้กำลัง 270 แรงม้า (201 กิโลวัตต์) แรงบิด 340 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic

       Nissan Altima รุ่นปรับโฉมนี้มีกำหนดการจำหน่ายในสหรัฐฯช่วงพฤศจิกายน ส่วน Teana บ้านเราก็จะได้ใช้หน้าตาแบบนี้เช่นกัน ซึ่งกำหนดการเปิดตัวเราจะอัพเดทให้รับทราบอีกทีครับ..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ที่มา worldcarfans

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

เผยแล้ว!! Suzuki Baleno พร้อมเครื่องยนต์ "Booster Jet" ขนาด 1.0 ลิตร..!!

       ในที่สุดก็เปิดตัวไปเรียบร้อยสำหรับ Suzuki Baleno ที่ว่ากันว่าอาจจะเป็นโมเดลใหม่ที่กำลังมาแทนที่ Suzuki Swift ที่ขายมาหลายปี รวมถึงเมืองไทยก็กวาดยอดขายไปได้หลายคันจากการเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์..!!


       Suzuki Baleno ถูกเผยโฉมในงานแฟรงค์เฟริต มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา โดยจะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กแบบท้ายตัด 5 ประตู ที่มีความยาว 3,995 มิลลิเมตร กว้าง 1,745 มิลลิเมตร และสูง 1,740 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ Swift ที่ขายในบ้านเราจะมีความยาวอยู่ที่ 3,850 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร และสูง 1,510 มิลลิเมตร จะเห็นได้ว่าใหญ่กว่ากันทุกมิติ

       Baleno มีการออกแบบที่ออกแนวเรียบง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์เสา A สีดำไว้เหมือนสวิฟท์ ไฟหน้าฝังไฟ DRL ไว้เพิ่มความโดดเด่น และไฟท้ายแบบ LED ส่วนภายในห้องโดยสารมีดีไซต์แผงคอนโซลหน้าทรงใหม่พร้อมจอสัมผัส, พวงมาลัยยังคล้ายของ Swift และรุ่นอื่นๆของค่าย, มีระบบจำกัดความเร็ว Adaptive Cruise Control, รองรับ Apple Car Play และระบบความปลอดภัยอย่างระบบช่วยเบรกอัตโนมัติสามารถรองรับได้ 5 ที่นั่ง และมีพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 355 ลิตร



       ขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ Booster Jet ใหม่ล่าสุด ที่มีขนาดความจุ 1.0 ลิตร 3 สูบแถวเรียง พ่วงเทอร์โบชาร์จ และระบบฉีดน้ำมันตรง Direct injection ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด



       ส่วนเครื่องยนต์อีกหนึ่งตัวที่เน้นความประหยัด จะมีขนาด 1.2 ลิตร Dual Jet 4 สูบ กำลังสูงสุด 89 แรงม้า แรงบิด 120 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และยังมีรุ่นเกียร์เกียร์อัตโนมัติ CVT และในอนาคตอาจจะยัดเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด SHVS อีกด้วย

       Suzuki Baleno จะมีแผนในการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ ส่วนเมืองไทยก็อาจจะมีหวังเพราะเครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถผ่านเกณฑ์โครงการรถอีโคคาร์ เฟส 2 ได้อีกด้วย..!!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ที่มา gaadiwaadi

จัดเต็ม!! เทียบสเปค Naked Bike คลาส 300 ซีซี ที่กำลังเดือด!!


       ใครที่กำลังเริ่มต้นจะหันมาเล่นรถ Bigbike คงทราบกันดีว่ารถในคลาส 250-300 นี่แหละคือขนาดที่เหมาะแก่การฝึกขับให้ชินและมีทักษะก่อนที่จะก้าวไปสู่ซีซีสูงๆ หรือใครอาจจะเริ่มที่ 500-600 ซีซีเลยก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด แต่รถ 300 ซีซีนี่แหละที่ตอนนี้กำลังมาแรง เพราะหลังจากที่ Yamaha MT-03 เปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปแล้ว ก็เป็นเรื่องดีที่เราจะเอารถกลุ่มนี้มาเทียบสเปคกันให้เห็นแบบจะจะกันเลย..!! 

       เราจะเอาสเปคของ Naked Bike พิกัด 300 ซีซี มาเทียบกันว่าแต่ละคันจะให้อะไรมาบ้าง เป็นอีกข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อ ซึ่งจะมีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Benelli TNT300S, Honda CB300F, KTM Duke 390, Kawasaki Z300 และน้องใหม่ Yamaha MT-03 นั่นเองครับ!!

BENELLI TNT300S

       คันแรกคือเจ้า Benelli TNT300S เป็นค่ายน้องใหม่ในไทยจากอีตาลี โดย TNT300S นั้นจะมีการดีไซต์ที่ค่อนข้างบึกบึน แต่ยังแฝงความอ่อนช้อยไว้ ไฟหน้าโคมเดี่ยวที่ยึดไว้กับแกนโช็คแบบหัวกลับ USD พร้อมดิสก์เบรคหน้าคู่ เรียกได้ว่าแค่เห็นด้านหน้าก็หล่อแล้ว ถังน้ำมันทรงโหนกใหญ่ดีครับ มีปีกครอบหม้อน้ำเล็กๆไม่ใหญ่มาก เลยทำให้หน้ากากไฟหน้าดูเหมือนจะยื่นๆป่องๆคล้ายหัวตั้กแตนไปสักหน่อย แต่จะโดดเด่นด้วยเหล็กเฟรมถักที่จะมีทั้งสีแดง สีดำ และสีขาวให้เลือกแล้วแต่สีตัวรถ 



       เบาะนั่งจะเป็นแบบตอนเดียวขนาดใหญ่และกว้าง สอดรับกับท้ายรถที่ไม่สูงมากนักจึงทำให้นั่งขับขี่ได้สบายโดยเฉพาะผู้ซ้อน แต่ถ้าท้ายโด่งกว่านี้ก็จะเพิ่มความหล่อได้อีกพอสมควร ขนาดยางหลังในต่างประเทศจะเป็นไซส์ 160 มาไทยลดลงเหลือเพียง 140 เท่าเพื่อนฝูง หากใครอยากยัด 160 ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ระดับแฮนเดิลบาร์จะอยู่ในตำแหน่งที่สูง เมื่อขึ้นคล่อมจะรู้สึกได้ว่าตัวรถจะมีความกว้างมาตั้งแต่เครื่องยนต์แบบ 2 สูบ แต่จะวิเศษกว่าชาวบ้านคือเสียงมันหวานเร้าใจอย่างกะรถ 4 สูบจริงๆ และเป็นรถคันเดียวที่ไม่ได้มีการพัฒนามาจากตัวสปอร์ตเหมือนค่ายอื่น คือเกิดมาก็เป็นสปอร์ตเน็กเก็ตอย่างเต็มตัวเลย

       Benelli TNT300S ถือว่าจัดออพชันมาให้อย่างเต็มเหนี่ยว ไม่ว่าจะเป็นชุดโช็คหน้า ทวินดิสก์หน้า ไฟเลี้ยวไฟท้าย LED แต่ยังขาดระบบความปลอดภัยอย่างเบรค ABS ซึ่งถ้ามีก็จะสร้างความอุ่นใจได้พอสมควรเมื่อจะเรียกใช้ในยามขับลุยฝน หรือถนนที่มีเศษหิน กรวด แต่นั่นก็ต้องอยู่ที่ความไม่ประมาทและสติของเราเป็นสำคัญ



HONDA CB300F
       คันต่อมาจากค่ายปีกนกที่คุ้นเคยกันดี CB300F เป็นรุ่นที่พัฒนามาพร้อมกับตัวสปอร์ต CBR300R จะมีการดีไซต์ที่รักษาเอกลักษณ์ของฮอนด้าไว้อย่างดี ตัวรถออกแนวสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ไฟหน้าโคมเดี่ยวที่จะออกสไตล์รุ่นพี่ CB650F ชุดโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกพร้อมเบรคหน้าหลังแบบจานดิสก์ พร้อมระบบกันล้อล็อก ABS มาให้ ถังน้ำมันขนาดไม่ใหญ่มากนัก อาจจะขัดใจคนที่ชอบถังที่โหนกใหญ่ๆสูงๆ แต่ก็ทดแทนกันด้วยแฟริ่งข้างหม้อน้ำที่มีขนาดใหญ่พอควร ทำให้ตัวดูพองขึ้นมาได้อีก

       ท้ายรถจะไม่สูงมากนัก มีเบาะสองตอนไว้รองรับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนได้อย่างสบาย ชุดแฮนด์ยกระดับขึ้นมาจึงสามารถขับขี่ได้ค่อนข้างง่ายและไม่ปวดหลัง



       สิ่งที่ขัดตาขัดใจเห็นจะเป็นท่อไอเสียที่ดีไซต์ออกมาไม่เข้ากับตัวรถสักเท่าไหร่ อาจจะดูคุ้นๆว่าเหมือนเคยเห็นท่อนี้มาจากไหน มันก็ยกดีไซต์มาจากตระกูล 500 Series ของค่ายนั่นแหละครับ แต่ถ้าสังเกตให้ลึกไปกว่านั้นอีก คุณจะอาจจะคุ้นทั้งหน้าตาเครื่องยนต์ โครงรถ แม้แต่ล้อแม็กซ์ก็ด้วย? ใช่แล้วครับ! CB300F/CBR300R มันถูกพัฒนามาจากตัว CBR250 นั่นเอง ดังนั้นเครื่องยนต์ก็ยังจะเป็นสูบเดียว ซีซีเพิ่มขึ้นเป็น 286cc. กำลังในย่านความเร็วสูงก็อาจจะด้อยกว่าคู่แข่งไปตามสภาพ แต่ขึ้นชื่อว่าฮอนด้าก็จะได้เปรียบตรงศูนย์บริการและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างถูกกว่าค่ายอื่น โดยรวมถือว่ามาอย่างมาดสปอร์ต ตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ขนาดกำลังดี ถ้าสอยมาขี่ก็แรงพอประมาณ



KTM DUKE 390
       ค่ายจากออสเตรียคันนี้มีนามว่า KTM Duke 390 จะว่าไปแล้วโมเดลตระกูล Duke ในคลาส 125, 200 และ 390 นั้นแทบจะไม่มีความต่างกันเลย มีเพียงลายกราฟฟิกและขนาดเครื่องยนต์เท่านั้นที่พอสังเกตได้ แต่เจ้า 390 ก็ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ในโมเดลดีไซต์นี้ หลังจากที่เปิดตัวในไทยช่วงแรกๆราคาก็จะสูงลิ่วจากการนำเข้าที่ตัวเลข 339,000 บาท แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา KTM ก็ได้นำมาประกอบที่เมืองไทยแบบ CKD จึงทำให้ราคานั้นลดลงไปหนึ่งแสนบาทเต็มๆ!! 

       ซึ่งเจ้าคันนี้จะเด่นด้วยการดีไซต์ที่เน้นการโชว์เส้นสายของศิลปะจากเฟรมสีส้ม โช้คหน้าหัวกลับ USD ที่มีดิสก์หน้าวางไว้ด้านซ้ายมือ ต่างจากค่ายอื่นที่จะวางไว้ฝั่งขวา พร้อมระบบเบรค ABS ที่สามารถเปิดและปิดการทำงานได้ ถือว่าเอาใจทั้งขาซิ่งในสนามและการใช้ในเมืองได้อย่างดี Duke 390 จะมีรูปร่างที่ค่อนข้างเพรียวกว่าใคร ถังน้ำมันไม่ใหญ่มาก เข้ากับทรงเบาะที่สูงกว่าเพื่อน




       เบาะคนซ้อนสั้นและสูง ขึ้นนั่งอาจจะลำบากและไม่สบายตัวสักหน่อย สวิงอาร์มขนาดใหญ่มีลายถักดูสวยงามมากครับ ปลายท่อไอเสียจะอยู่ใต้ท้องรถ Duke 390 และ TNT300S เป็นรถเพียงสองรุ่นที่วางตำแหน่งท่อลักษณะนี้ ตัวรถมีน้ำหนักเบาที่สุด บวกกับเครื่องยนต์สูบเดียวขนาด 373 ซีซี โดยรวมเป็นรถที่มีดีไซต์เด่นมากพอสมควร อุปกรณ์ที่ให้มาจัดเต็มทุกอย่าง แต่ขอติเรื่องมาตรวัดที่ตัวอักษร ค่าต่างๆจะมีขนาดเล็ก มองไม่ค่อยถนัดนัก สุดท้ายคือค่าตัวก็ยังแพงกว่าใคร(อยู่ดี) ถ้าชอบในตัวรถกับราคาขนาดนี้คงไม่ใช่ปัญหา




KAWASAKI Z300
       มาถึงค่ายเขียวกันบ้าง Z300 ไม่บอกก็คงรู้ว่ามันก็ใช้โมเดลเดียวกันกับ Z250 แต่จะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆต่างออกไป ตัวนี้จะมาแนวบึกบึน ทะมึน โฉบเฉี่ยว ถ้าเปรียบเป็นคนก็นักเพาะกายเลยล่ะ เป็นรุ่นเดียวที่มีไฟหน้าแบบสองข้างทรง W ดูแล้วมีทั้งความโหด ความโกรธ และพร้อมที่จะพุ่งทะยานไปด้านหน้าเสมอ เรือนร่างอันใหญ่โตจากถังน้ำมันต่อด้วยแฟริ่งด้านข้างมีมากชิ้นกว่าใคร จึงทำให้ Z300 มีความกว้างและใหญ่โตอลังการที่สุด




       ทรวดทรงด้านท้ายมีความลงตัวค่อนข้างมาก สิ่งหนึ่งที่ต่างจากตัว Z250 คือเบาะผู้ขับขี่ จะมีการเสริมลายตัว Z เหมือนใน Z800 เพิ่มเข้ามา แต่เบาะผู้ซ้อนยังเป็นแบบเดิมซึ่งจะมีความสูงใช้ได้เลยครับ รวมถึงเบรค ABS ก็มีการเสริมให้ด้วย พื้นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์จะเป็นสีขาว ส่วนนอกนั้นก็ไม่มีอะไรต่างจากรุ่นน้องครับ

       เครื่องยนต์ก็ยกมาจาก Ninja 300 ที่มีความจุ 296 ซีซี ที่มีกำลังต่อเนื่องดี ถึงแม่ว่า Z300 จะมีดีไซต์ที่คุ้นตาสุดๆจากโมดลที่ใช้ร่วมกับ Z250 ก็เรื่องพละกำลังและส่วนอื่นๆก็มิอาจมองข้ามเจ้าแรดเขียวได้เลย




YAMAHA MT-03
       คันสุดท้ายเป็นน้องใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นาน MT-03 หลังจากที่ขาย R3 มาได้สักพัก ก็ได้เปิดตัวตามมาเป็นที่เรียบร้อย แต่แว้บแรกที่หลายคนเห็นนั้นมันชั่งขาดจิตวิญญาณของรถตระกูล MT ไปพอสมควร จะเห็นได้จากหน้ากากไฟหน้าที่ดูจะเรียบๆไปสักหน่อย แต่ก็ยังมีการเพิ่มไฟหรี่แบบ LED บริเวณรอยต่อของชิวหน้า เรือนร่างดูเปิดเผยกว่าคันอื่นๆ ซึ่งแฟริ่งตรงปีกหม้อน้ำจะค่อนข้างน้อย อาจจะดูโล่งๆไปนิดนึง แต่ก็ยังติดตั้งในส่วนของอกไก่ไว้เพื่อลดการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นได้




       ถังน้ำมันจะถูกซ่อนไว้ใต้ไฟเบอร์ 3 ชิ้นที่ประกบไว้อีกชั้น ซึ่งทรงจะแตกต่างจาก R3 เล็กน้อย ขนาดความกว้างของถังจะพอๆกันกับ TNT300S มาตรวัดค่าแบบดิจิตอล วัดรอบแบบอนาล็อก พร้อมไฟบอกช่วงการชิฟท์เกียร์ขึ้น เบาะนั่งสองตอน เบาะหลังสูงโด่งพร้อมที่จับกันตกมาให้

       เครื่องยนต์ 2 สูบ 321 ซีซี ท่อไอเสียฝั่งขวาแบบสั้น ให้ซุ่มเสียงเร้าใจคล้ายรถแข่งในสนาม สวิงอาร์มขนาดใหญ่แข็งแรงดี ดิสก์เบรคหน้าหลังพร้อม ABS รวมๆแล้วเรียกได้ว่าเป็นจอมพลังอีกตัวที่น่าสนใจ แต่อาจจะขัดใจตรงหน้ากากไฟหน้าไปนิดที่แฟนๆค่ายซ้อมเสียงยังแอบบ่น แต่ขับขี่บนถนนก็เท่ได้ไม่อายใคร




มิติตัวรถ

ระบบช่วงล่าง


ระบบเครื่องยนต์

       และทั้งหมดนี้คือการเทียบสเปคของรถ Naked Bike คลาส 300 ซีซีที่มาแรงที่สุดในชั่วโมงนี้ โดยราคาของแต่ละคันจะมีดังนี้


- Benelli TNT300S ราคา 139,000 บาท
- Honda CB300F ราคา 130,000 บาท
- KTM Duke 390 ราคา 239,000 บาท
- Kawasaki Z300 ราคา 172,000 บาท
- Yamaha MT-03 ราคา 177,000 บาท


       *หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะทำให้ทุกท่านที่กำลังสนใจรถกลุ่มนี้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ^^*

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

โตโยต้าออสซี่แนะนำอุปกรณ์ Accessories ของ 2016 Toyota Hilux Revo..!!


       โตโยต้าออสเตรเลียได้นำเสนอชุดอุปกรณ์เสริม Accessories ของ 2016 Toyota Hilux Revo ใหม่ ทั้งในรุ่น Double Cab และรุ่น Extra Cab (Chassis) ก่อนเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้..!!

       โดยอุปกรณ์ Accessories Hilux Revo จะมีให้เลือกมากกว่า 60 รายการ ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่จัดเต็มที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยทุกชิ้นจะตีตราของ TOYOTA เองทั้งหมด(เป็นครั้งแรก) และมีการออกแบบพร้อมทดสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความแข็งแรงและความทนทานในการใช้งานที่หลากหลาย




       รุ่นดับเบิลแค็บจะมีอุปกรณ์หลักๆ เช่น กันชนหน้าโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลายใหม่สีดำด้าน บันไดข้าง และมีการติดตั้งโรลบาร์กระบะท้ายพร้อมฝาปิดที่มีถาดใส่ของซ่อนไว้ด้านใน หรือจะเปลี่ยนเป็นหลังคากระบะที่สามารถเปิดกระจกได้ทั้งสามบานโดยใช้โช็คเป็นตัวค้ำยัน และมีหมุดตะขอใต้กันชนท้ายไว้ลากพ่วงอีกด้วย

       ส่วนรุ่นเอ็กซ์ตร้าแค็บแบบกระบะพื้นเรียบ ที่ติดตั้งสแตน Bullbars ที่ทนแรงกดจากการบรรทุกได้เป็นอย่างดี มีหลอดไฟ LED บริเวณกันชนหน้าที่มีเหล็กครอบกันไฟหน้า ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีดำ มีการจัดตำแหน่งสายไฟพร้อมระบบตรวจจับความผิดปกติ 




       Mr. Tony Cramb ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของโตโยต้าออสเตรเลีย กล่าวว่า "ด้วยความเข้มงวดในด้านมาตรฐานระดับโลก อุปกรณ์เสริมของแท้จากโตโยต้าไฮลักซ์จึงต้องมีการวิจัยในตลาดที่กว้างขวางทั้งความต้องการและลักษณะการใช้งาน รวมถึงการทดสอบให้สินค้าสมบูรณ์แบบที่สุด โดยจะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มอาชีพเหมืองแร่และก่อสร้างที่มีการบรรทุกหนัก"

       อุปกรณ์เสริม Accessories ของ Hilux Revo มีกว่า 60 รายการที่อาจจะส่งออกไปยังตลาดอื่นๆที่มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกัน โดยจะพร้อมจำหน่ายในเดือนถัดไป..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ที่มา caradvice

จริงหรือ? Mazda BT-50 โฉมถัดไปจะใช้พื้นฐานจาก Toyota Hilux Revo..!!

       เป็นที่ทราบกันดีว่ารถปิกอัพมาสด้าอย่าง BT-50 Pro นั้นใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมเดียวกันกับ Ford Ranger แทบทั้งหมด ซึ่งเป็นการร่วมกันพัฒนามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว..!!



       Mazda BT-50 Pro โฉมปัจจุบันก็เหลือเวลาอีกไม่เกิน 5 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนโมเดลใหม่ (Model Change) จึงทำให้มาสด้าก็เตรียมการพัฒนากระบะของตนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งสื่อจากต่างประเทศก็ได้รายงานว่า BT-50 Pro โฉมถัดไปอาจจะได้ใช้พื้นฐานแชสซีส์ร่วมกับ Toyota Hilux Revo

       เมื่อมองย้อนมาดูความสัมพันธ์ของมาสด้าและฟอร์ดนั้นเริ่มที่จะมีจุดยืนเป็นของตัวเอง จะเห็นได้จากรถยนต์นั่งที่แยกกันทำอย่างสิ้นเชิงแล้ว (เหลือเพียงกระบะเท่านั้น) บวกกับการที่โตโยต้าได้จับมือกับมาสด้าเพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน มันก็มีความเป็นไปได้ถ้ามาสด้าคิดจะทำอย่างนั้นจริง แต่ Mr. Masahiro Moro ฝ่ายการตลาดของ Mazda ก็ยังไม่ได้ออกมาพูดและยืนยันเรื่องนี้แต่อย่างใด

       Mazda BT-50 Pro ถือเป็นรถที่ได้รับความนิยมและมีความสำคัญต่อประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองพอสมควร เพราะจากการจับมือกันของทั้งสอง จึงทำให้ตอนนี้โตโยต้าก็มีสิทธิ์ได้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ Skyactiv ทั้งเบนซินและดีเซลของมาสด้า ส่วนมาสด้าก็ได้เทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้าเช่นกัน ถือว่าทั้งได้ทั้งเสียทั้งสองฝ่าย หากในอนาคตทั้งคู่จะคลอดรถออกมาคล้ายกันก็เป็นเรื่องธรรมดา

       ถึงแม้ยังไม่ได้มีการยืนยันจาก Mazda แต่น่าจะมีความคืบหน้าเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเราจะติดตามและอัพเดทข่าวสารให้รับทราบแน่นอนครับ..!!


ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ที่มา caradvice

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

รวมภาพงานเปิดตัว All New Honda Civic ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน..!!

       หลังจากที่ Honda เผยโฉม All New Civic อย่างเป็นทางการไปแล้ว เราได้รวบรวมภาพงานเปิดตัวจากสื่อต่างประเทศมาให้ชมกันแบบเต็มๆทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งใครอยากทราบรายละเอียดต่างๆของ All New Civic สามารถอ่านได้ที่นี่ คลิก












ภาพจาก civicx



ภาพจาก carscoops














ภาพจาก autoblog











ภาพจาก Leftlanenews

ขอบคุณวีดีโอจาก AutoGuide

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************