ภายนอกนั้นไม่ได้แตกต่างจากตัวปกติสักเท่าไหร่ โดยยังมีการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED (DRL) กระจังหน้าโครมเมียม ตัดกับสีฟ้าที่แสดงตัวตน Hybrid ที่บริเวณกันชนหน้า และฝาท้ายอีกด้วย ล้ออัลลอยขนาด17 นิ้ว พร้อมติดตั้งราวหลังคาเพื่อการบรรทุกสัมภาระในยามเดินทาง
ส่วนภายในห้องโดยสารยังหรูหราด้วยเบาะนั่งหนังแท้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา เบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบนราบ (ไม่มีเบาะแถวสาม เพราะเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่) ฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Auto Lift gate) พร้อมติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง
ส่วนภายในห้องโดยสารยังหรูหราด้วยเบาะนั่งหนังแท้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา เบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบนราบ (ไม่มีเบาะแถวสาม เพราะเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่) ฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Auto Lift gate) พร้อมติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง
ขุมพลังจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเร็คอินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีกำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ผสานการทำงานทั้งสองเข้าด้วยกันก็จะได้กำลังสูงสุดรวมที่ 179 แรงม้า (เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ XTRONIC CVT พร้อม Manual Mode 7 สปีด ช่วยให้ได้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุด และประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ถึง 25.6%
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจริยะ (Intelligence Dual Clutch System) โดยจะทำงานดังนี้
- เมื่อรถยนต์ต้องการกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ เช่น ช่วงการเร่งแซง หรือ ทำความเร็ว คลัทช์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานพร้อมกัน ทำให้เกียร์ CVT ได้รับกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
- เมื่อรถยนต์ต้องการกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ เช่น ช่วงการเร่งแซง หรือ ทำความเร็ว คลัทช์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานพร้อมกัน ทำให้เกียร์ CVT ได้รับกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
- การขับขี่ในช่วงที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว จะมีการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่จากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 จะทำงาน เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ส่งไปขับเคลื่อนเกียร์ ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า จะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์เพื่อรีชาร์จประจุไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่
- เมื่อระบบไม่ต้องการกำลังจากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 ที่อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ จะตัดการทำงานจากเครื่องยนต์ ผลที่ตามมาคือ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากการหมุนของเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหลือเพียงมอเตอร์ไฟฟ้ากับเกียร์เท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์จะทำงานเหมือนกับเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV)
- และอีกคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากระบบไฮบริดอื่นๆ คือ ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ สามารถทำงานที่ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบไฮบริดทั่วไป อันจะนำมาซึ่งการประหยัดน้ำมันในย่านความเร็วสูงอีกด้วย
"ซึ่งนิสสันมีความมั่นใจในสมรรถนะในทุกๆด้านของรถยนต์รุ่นนี้อย่างยิ่ง โดยเชื่อมั่นว่าจะทำให้ลูกค้าที่รอคอยเทคโนโลยีไฮบริดนี้ของนิสสัน มีประสบการณ์ที่ประทับใจและเชื่อมั่นกับความเหนือระดับอันแตกต่างที่นิสสันได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มที่ชื่นชอบรถยนต์แบบ SUV และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีรวมถึงใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม”
- สีขาวสตอร์มไวท์
- สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์
- สีเขียวมิดไนท์เจด
- สีเทาดีพไอริสเกรย์ สี
- สีดำแบล็คสตาร์
ราคาจำหน่าย Nissan X-Trail Hybrid ใหม่ ดังนี้
รุ่น 2.0S 2WD ราคา 1,249,000 บาทรุ่น 2.0E 2WD ราคา 1,324,000 บาท
รุ่น 2.0V 4WD ราคา 1,395,000 บาท
นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค นิสสัน รับประกันรถยนต์ 3 ปี หรือ 1 แสน กม.รับประกันระบบไฮบริด 3 ปี หรือ 1 แสน กม. และยังรับประกันแบตเตอรีถึง 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย นอกจากนี้นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริดยัง มาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษเพื่อการเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้นจากนิสสัน โดยแถมประกันภัยชั้น 1 (Nissan Premium Protection) 1 ปี พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 60,000 กม.หรือ 36 เดือน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79%!!
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น