วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Isuzu D-Max นวัตกรรมเปลี่ยนโลกด้วยเครื่อง 1.9 Ddi Blue Power ใหม่!!

       เห็นกันเต็มๆตากันไปแล้วสำหรับกระบะ Isuzu D-Max Minorchange ที่หลายคนรอคอย จากการแอบวิ่งทดสอบกันมานานและปิดข่าวเงียบจนแทบไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเขาเลย งั้นเราไปดูข้อมูลของเจ้าคันนี้กันว่าเขาปรับเปลี่ยนอะไรใหม่บ้าง..!!



เริ่มกันที่การออกแบบกันก่อน ด้านหน้ามีการปรับกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าทรงใหม่พร้อมย้ายไฟส่องสว่างตอนกลางวันเอามาไว้ในโคม และมีไฟตัดหมอกมาให้อย่างที่ควรจะเป็น กระจังหน้าใหม่ที่ยังคงมีเอกลักษณ์เดิมแต่ดูดีขึ้น เส้นสายด้านข้างยังคงเดิม ยกเว้นลายล้ออัลลอยที่ปรับทั้งขอบ 16 นิ้ว และ 18 นิ้วใหม่ในรุ่น V-Cross กับ Hi-Lander

ด้านท้ายจะเห็นฝากระโปรงที่มีเส้นเหลี่ยมสันมากขึ้น ซึ่งดีไซต์กันชนหน้าของรุ่นยกสูงและรุ่นตัวเตี้ยจะมีความแตกต่างกันชัดเจน ทำให้ได้อารมณ์คนละแบบกันเลยทีเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “STRONG EMOTIONAL SPORTY” ด้วยเส้นสายแห่งดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกทรงพลังและพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าแต่ยังคงประสิทธิภาพความลู่ลมสูงสุดด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำสุดที่ยังคงช่วยให้ประหยัดน้ำมันสุด และเงียบสุด รวมทั้งภายในใหม่ ดีไซน์ที่ล้ำสมัย ต่อยอดความสะดวกสบายสูงสุดแบบฉบับอีซูซุ




ส่วนภายในนั้นเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก โทนสีภายในรุ่นยกสูงจะเป็นสีดำ แทนสีน้ำตาลเดิม มาตรวัดใหม่ Super Vision 3D Shape Point พร้อมจอแสดงผลการขับขี่แบบ Color Display MID เบาะหลังปรับพับได้แบบ 60:40 

ระบบความบันเทิง Isuzu Connect World เทคโนโลยีเชื่อมต่อใหม่ สามารถเชื่อมต่อ Smartphone ได้ทั้งระบบ iOS และ Android และระบบเสียงสมบูรณ์แบบด้วยลำโพงคุณภาพระดับ Hi-end กับ Roof Speaker และเทคโนโลยีอัจฉริยะ Isuzu Insight



จุดเด่นสำคัญจะอยู่ที่เครื่องยนต์ที่อีซูซุได้โล้ะเครื่อง 2.5 ลิตรออกไป เอาเครื่องยนต์ใหม่รหัส RZ4E-TC คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน 1.9 ลิตร DDi BLUEPOWER มาใส่แทน โดยให้กำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที 


โดยจุดเด่นจะอยู่ที่...
- เครื่องยนต์น้ำหนักเบาที่สุด (LESS Weight) 
- ค่าแรงเสียดทานต่ำสุด (LESS Friction)
- ระดับเสียงเครื่องยนต์ต่ำสุด (LESS Noise) 
- ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุด (LESS CO2)
- ค่าบำรุงรักษาต่ำสุด (LESS Maintenance) 

ในด้านสมรรถนะยังให้...
- แรงม้าสูงสุด (MORE Power) 
- แรงบิดสูงสุด (MORE Torque) 
- ทนทานสูงสุด (MORE Durability) 
- ประหยัดน้ำมันสูงสุด (MORE Fuel Efficiency) 
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด (MORE Environmental Friendliness)

เครื่อง 1.9 DDi BLUEPOWER จะประกบคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดใหม่ โดยมีจุดโอเวอร์ไดรฟ์ ที่เกียร์ 5 และเกียร์ 6 ที่ให้อัตราทดเกียร์แบบต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 2.5 Ddi VGS TURBO ขนาด 2,500 ซีซี เดิม จะมีแรงม้าเพิ่มขึ้น 10% แรงบิดเพิ่มขึ้น 9% เร็วขึ้น 8% (จากการทดสอบอัตราเร่งช่วง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง) น้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์เดิม 20% หรือลดลงถึงประมาณ 60 กิโลกรัม ค่ามลพิษต่ำสุด (โดยเฉพาะในรุ่นสปาร์ค มีค่า CO2 ต่ำเพียง 161 กรัม/กม. น้อยสุดในรถระดับเดียวกัน)

ส่วนอีกเครื่องยนต์จะเป็น 3.0 DDi BLUEPOWER รหัส 4JJ1-TCX ขนาด 3,000 ซีซี. (เครื่องยนต์เดิม) ที่ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด 


Isuzu D-Max Minorchange Blue Power มีให้เลือก 6 สี ได้แก่
- สีน้ำเงิน (Brazilian Quartz Metallic)
- สีเงิน (Iceberg Silver) สีใหม่
- สีขาวมุก (Everest Pearl White)
- สีบรอนซ์เงิน (Arctic Silver)
- สีดำ (Australian Coal Black)
- สีขาว (Siberian White)

Isuzu D-Max Minorchange ยังไม่ประกาศราคาและสเปคอย่างละเอียด เผยเพียงราคาในรุ่น 1.9 DDi BLUEPOWER จะมาในช่วงราคา 490,000 – 928,000 บาท และรุ่น 3.0 DDi BLUEPOWER มาในช่วงราคา 573,000 – 1,004,000 บาท สามารถสัมผัสพร้อมทดลองขับได้ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ!!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น