สงครามได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อรถกระบะที่หลายคนกล่าวถึงมากที่สุดอีกรุ่นได้เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Ford Ranger Minorchange นั่นเอง มาพร้อมดีไซต์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม และผสานกับเทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย..!!
Ford Ranger ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นและแสดงถึงสมรรถนะอันทรงพลัง เพราะโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ พร้อมกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบโครเมียม เส้นสายบนกระโปรงหน้ารถที่ดูบึกบึนโฉบเฉี่ยวพร้อมโช็คค้ำ ช่องดักอากาศหลอกดีไซต์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว บันไดข้างทรงใหม่ ส่วนในรุ่น Wildtrak จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป โดยชุดกระจังหน้า กันชนหน้า กรอบกระจกมองข้าง และกันชนท้ายจะตกแต่งด้วยสีน้ำตาลดำเพิ่มความดุดันขึ้นไปอีก พร้อมล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 18 นิ้ว และชุดแต่งบาร์ท้ายกระบะ ราวหลังคาเพื่อประโยชน์ใช้สอยและความลงตัว ในรุ่น XLT และ Wildtrak ยังให้ไฟส่องกระบะท้ายมาให้ด้วย
ภายในออกแบบใหม่มีหน้าตาคล้ายกับ Everest และใช้วัสดุดูหรูหราและทนทาน สะดวกสบายยิ่งขึ้นแบบรถยนต์นั่ง ใช้โทนสีดำสลับเทา ซึ่งในรุ่น Wildtrak แผงคอนโซลจะบุวัสดุนุ่มพร้อมเดินตะเข็บสีส้ม เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำสลับผ้าสีส้มเช่นกัน และเบาะฝั่งคนขับสามารถปรับได้ถึง 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า กล่องเก็บความเย็น ชุดเครื่องเสียงจะมีหน้าจอควบคุมแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงผลข้อมูลการขับขี่ หรือข้อมูลด้านความบันเทิง การควบคุมระบบปรับอากาศ หรือระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ได้ แผงมาตรวัดแบบจอดิจิทอลคู่สามารถเลือกฟังก์ชันได้หลากหลาย ทั้งยังมีช่องชาร์จไฟแบบ 230 โวลต์, Wi-Fi Hotspot, ระบบกุญแจ MyKey
Ford Ranger Minorchange มีเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหมด 3 แบบ ทรงพลัง ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค TDCI VGTurbo ขนาด 3.2 ลิตร 5 สูบ ได้รับการพัฒนาและติดตั้งระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่ จึงสามารถเพิ่มความสามารถในประหยัดน้ำมัน กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร มีทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค TDCI VGTurbo ขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ มีการปรับปรุงให้ความประหยัดน้ำมันกว่าเดิม และเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ด้วยการเพิ่มกำลังเป็น 160 แรงม้า แรงบิดเพิ่มเป็น 385 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ทั้งสองแบบนี้จะอยู่ในรุ่น XLT และ Wildtrak)
และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 125 แรงม้า และแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะอยู่ในรุ่น XLS และ XL (ตัดเครื่องยนต์เบนซินออก)
Ford Ranger ใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงระบบความปลอดภัยมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบสั่งงานด้วยเสียงใหม่ ซิงค์ 2 (SYNC 2) ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารภายในตัวรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมระบบต่างๆ ของตัวรถผ่านคำสั่งเสียง ไม่ว่าจะเป็นระบบความบันเทิง และระบบปรับอากาศ มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ซึ่งจอแสดงคำสั่งการใช้งานแต่ละเมนูแยกสีต่างกัน ทำให้การใช้งานเมนูง่ายดายยิ่งขึ้น
- สัญญาณเซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้าหลัง (Front and Rear Park Assist) ใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะจอดรถ และสั่งสัญญาณเสียงเตือนเมื่อรถเข้าใกล้สิ่งกีดขวางดังกล่าวที่ความเร็วต่ำ
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) พร้อมระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation)
- ระบบลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์ (Trailer Sway Control) ช่วยให้รถอยู่ในความควบคุมเสมอแม้ในสภาวะการขับขี่ที่ท้าทาย
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถบนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในระดับความเร็วต่อเนื่อง
- ระบบควบคุมการบรรทุก (Adaptive Load Control) ช่วยรักษาระบบควบคุมการทรงตัว ตามน้ำหนักของสัมภาระ
- ระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assistance) ซึ่งจะส่งน้ำหนักไปที่ระบบเบรกเพื่อเพิ่มพลังในการเบรกเมื่อผู้ขับขี่ต้องเบรกกะทันหันในสถานการณ์ฉุกเฉิน
- ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ESS
- ระบบเบรค ABS ป้องกันล้อล็อค, EBD กระจายแรงเบรค
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมฯ
- จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- กล้องมองหลัง
ฟอร์ด เรนเจอร์ยังติดตั้งระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPAS) ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นและช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ โดยระบบจะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาเมื่อขับความเร็วต่ำ และปรับเน้นความแม่นยำเมื่อขับที่ความเร็วสูง และสามารถขับขี่ลุยน้ำได้ที่ความลึกถึง 800 มิลลิเมตร และส่วนพื้นรถที่สูงถึง 230 มิลลิเมตร จึงช่วยให้สามารถรับมือกับทุกเส้นทางได้อย่างง่ายดาย
“ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้ยกระดับความสะดวกสบายและความประณีตให้กับตลาดรถกระบะ โดยยังคงไว้ซึ่งความเป็นรถกระบะพันธุ์แกร่งตามมาตรฐานของฟอร์ด หรือ Built Ford Tough ด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ผนวกกับสมรรถนะการขับขี่ที่สมบุกสมบันและการประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้น เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะสร้างมาตรฐานอีกระดับให้กับตลาดรถกระบะในประเทศไทยทั้งในด้านการออกแบบ ความสะดวกสบาย และความประณีต” ยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
Ford Ranger Minorchange ใหม่ มีสีให้เลือก ดังนี้
- สีขาว คูล ไวต์ (Cool White)
- สีดำ แบล็ก ไมก้า (Black Mica)
- สีเงินอลูมิเนียม เมทัลลิก (Aluminum Metallic)
- สีเทา เมโทรโพลิแทน เกรย์ (Metropolitan Gray)
- สีแดง ทรู เรด (True Red)
- สีน้ำเงิน ออโรร่า บลู (Aurora Blue)
- สีฟ้า บลู รีเฟล็กซ์ (Blue Reflex)
- และสีพิเศษ สีส้ม ไพร์ด ออเร้นจ์ (Pride Orange) สำหรับรุ่น Wildtrak เท่านั้น
Standard Cab ตอนเดียว
2.2L LR ราคา 549,000 บาท
2.2L SWB HR MT ราคา 575,000 บาท
3.2L SWB 4X4 w/TMS AT ราคา 749,000 บาท
-----------------------------------------------
Open Cab ตอนครึ่ง
2.2L XL MT LR ราคา 599,000 บาท
2.2L XLS MT LR ราคา 659,000 บาท
2.2L XLS MT HR ราคา 699,000 บาท
2.2L XLT MT HR ราคา 749,000 บาท
2.2L XLT AT HR ราคา 789,000 บาท
2.2L 4X4 XLT MT ราคา 809,000 บาท
3.2L 4X4 XLT MT ราคา 859,000 บาท
-------------------------------------------------
Double Cab สองตอน
2.2L XLS MT HR ราคา 789,000 บาท
2.2L XLT MT HR ราคา 829,000 บาท
2.2L XLT AT HR ราคา 869,000 บาท
2.2L 4X4 XLT MT ราคา 909,000 บาท
3.2L 4X4 XLT AT ราคา 1,019,000 บาท
--------------------------------------------------
Double Cab Wildtrak
2.2L Wildtrak MT ราคา 925,000 บาท
2.2L Wildtrak AT ราคา 965,000 บาท
2.2L Wildtrak 4X4 AT ราคา 1,070,000 บาท
3.2L Wildtrak 4X4 AT ราคา 1,139,000 บาท (Top of the line)
*รุ่น 3.2L Wildtrak 4X4 AT + Roller Shutter ฝาปิดกระบะท้ายราคาพิเศษ 65,000 (รวมติดตั้งเฉพาะ 17-19 ก.ค.นี้) ราคา 1,204,000 บาท*
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น