ด้วยความที่เป็นรถกระบะที่มีผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก ก่อนงานเปิดตัวจึงได้เห็นภาพหลุดออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน วันนี้ที่21 พฤษภาคม 2558 โตโยต้าได้เปิดตัวปิกอัพเปิดตัวรุ่นใหม่ครั้งแรกในโลก “Hilux REVO” พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งมีเทคโนโลยีทันสมัยและระบบความปลอดภัยจัดมาแบบเต็มๆ พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 14,000 คัน/เดือน
โตโยต้าเริ่มต้นสายการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ.2511 โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “ไฮลักซ์” ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 โตโยต้า ได้สร้างปรากฏการณ์ ให้กับตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ด้วยการแนะนำรถไฮลักซ์ เจเนอเรชั่นที่ 7 ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโตโยต้าที่มีการย้ายฐานการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก
โดยในประเทศไทยสามารถครองตำแหน่งแชมป์รถกระบะ ด้วยยอดขายสะสมกว่า 1,650,000 คัน ครองอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะ 9 ปีซ้อน และรถกระบะไฮลักซ์ที่ผลิตภายในประเทศไทย ยังสามารถสร้างความความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ภายใต้คุณภาพการผลิตมาตรฐานโตโยต้า ด้วยยอดส่งออกรถยนต์ภายใต้โครงการ IMV กว่า 2,400,000 คัน ทั้งหมดนี้แสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าทั่วโลก ที่มีต่อคุณภาพและสมรรถนะของโตโยต้า ไฮลักซ์ ทำให้เป็นรถกระบะยอดนิยมระดับโลกอย่างแท้จริง
REVOLUTION OF STYLING
Hilux REVO ทุกองศาคือความหรูหราผสานความโฉบเฉี่ยวดุดัน ด้วยเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า และกันชนหน้า เส้นสายที่สอดประสานกับไฟหน้ากับไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ควบคุมแสงสว่างเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Light Control System) พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ และไฟ LED Daytime Running Light ที่ผสานอย่างลงตัวกับไฟตัดหมอกหน้า ขณะที่ไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอก (Rear Combination Lamp with fog lamp) พร้อมครีบช่วยการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin) เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น กระจกมองข้างโครเมียม พร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางแบบ All-terrain รองรับทุกรูปแบบการขับขี่ ลุยได้ทุกสภาพถนน(แล้วแต่รุ่น)
REVOLUTION OF COMFORT
ภายในห้องโดยสารสรรค์สร้างที่สุดแห่งสุนทรียภาพขับขี่ และความหรูหราที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบ กับห้องโดยสารขนาดใหญ่โอ่โถงกว้างสบาย ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) และมาพร้อมกับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID 4.2 นิ้ว ติดตั้งระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์ แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทาง T-Connect และการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V กล่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) และช่องปรับอากาศสำหรับเบาะหลัง
ภายในห้องโดยสารสรรค์สร้างที่สุดแห่งสุนทรียภาพขับขี่ และความหรูหราที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบ กับห้องโดยสารขนาดใหญ่โอ่โถงกว้างสบาย ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) และมาพร้อมกับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID 4.2 นิ้ว ติดตั้งระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์ แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทาง T-Connect และการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V กล่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) และช่องปรับอากาศสำหรับเบาะหลัง
REVOLUTION OF POWER
GD Efficient Boost เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นล่าสุดจากโตโยต้า พลังขับเคลื่อนที่แรงขึ้นอีกขั้น ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ครอบคลุมทุกการใช้งาน ระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ (VN Turbo) ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพมากขึ้น หัวฉีดเทคโนโลยีล่าสุดปั๊มแรงดันสูง 220 MPa ฉีดน้ำมันเป็นละอองฝอย เผาไหม้สมบูรณ์หมดจด เพิ่มระดับความประหยัดให้มากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ทำงานเงียบ และสั่นสะเทือนน้อยกว่า มาพร้อมกับระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) เมื่อรถหยุดนิ่ง และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันและลดไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่ขึ้น กับระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการนำไอเสียหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ขณะทำงาน ลดมลพิษได้เต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐาน Euro 4
โดยเครื่องยนต์ของ Hilux Revo นี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซล(ใหม่) 2.4 ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล(ใหม่) 2.8 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน(เครื่องเดิม) 2.7 ลิตร
แต่ความแรงจะแตกต่างกันไป ดังนี้
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร และแรงบิด 400 นิวตันเมตร
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร และแรงบิด 450 นิวตันเมตร
REVOLUTION OF CONTROL
Hilux REVO มากับระบบส่งกำลังใหม่(แล้วแต่รุ่น) ทั้งเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย ราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้แรงบิดสูงในจังหวะรอบต่ำช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับเคลื่อนได้อย่างเหนือชั้น และประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังใช้งานสะดวกกับสวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch) เลือกรูปแบบสมรรถนะการขับขี่ได้ตามต้องการ ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode) และแบบสมรรถนะสูง (Power Mode) ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ รวมถึงสวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Shift-On-The-Fly (4WD Switch) ช่วยให้ปรับระบบเข้าสู่รูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายขึ้น พร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) เพื่อการขับขี่สไตล์ Off Road อย่างแท้จริง และยังมีเทคโนโลยีสำหรับการฝ่าฟันอุปสรรค กับระบบล็อกเฟืองท้าย (Diff Lock) ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะมีแรงฉุดลากที่เหมาะสม สามารถตะลุยผ่านเส้นทางวิบากได้อย่างง่ายดาย
Hilux REVO มากับระบบส่งกำลังใหม่(แล้วแต่รุ่น) ทั้งเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย ราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้แรงบิดสูงในจังหวะรอบต่ำช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับเคลื่อนได้อย่างเหนือชั้น และประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังใช้งานสะดวกกับสวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch) เลือกรูปแบบสมรรถนะการขับขี่ได้ตามต้องการ ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode) และแบบสมรรถนะสูง (Power Mode) ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ รวมถึงสวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Shift-On-The-Fly (4WD Switch) ช่วยให้ปรับระบบเข้าสู่รูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายขึ้น พร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) เพื่อการขับขี่สไตล์ Off Road อย่างแท้จริง และยังมีเทคโนโลยีสำหรับการฝ่าฟันอุปสรรค กับระบบล็อกเฟืองท้าย (Diff Lock) ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะมีแรงฉุดลากที่เหมาะสม สามารถตะลุยผ่านเส้นทางวิบากได้อย่างง่ายดาย
REVOLUTION OF STABILITY
ระบบช่วงล่าง DCS (Dynamic Control Suspension) ออกแบบใหม่ทุกชิ้น ให้การตอบสนองดีเยี่ยมทั้งการทรงตัวและความนุ่มนวล โดยระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ให้สมรรถนะเช่นเดียวกับรถ SUV ระดับหรู ขณะที่โครงสร้างแชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism) ออกแบบพิเศษให้แข็งแกร่งเพิ่มถึง 20% ทนทานยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการทรงตัวที่มั่นคงในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ลดแรงสั่นสะเทือนเพิ่มความนุ่มนวล พร้อมทั้งช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนดีกว่าเดิม 15% ช่วยปกป้องผู้โดยสารได้เหนือชั้นกว่า มั่นใจยิ่งขึ้นกับระบบควบคุมเสถียรภาพของห้องโดยสาร (Body Control with Torque Demand -เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล) ช่วยลดการกระพือของห้องโดยสารอันเนื่องมาจากสภาพถนน ให้การขับขี่ราบเรียบ และนุ่มนวลยิ่งขึ้น
REVOLUTION OF SAFETY
- เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบป้องกัน Active Safety ที่จัดมาแบบจุใจ ดังนี้
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control)
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC(Hill-start assist control)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control)
- และกล้องมองหลัง
ขณะที่ระบบปกป้องหลังเกิดอุบัติเหตุ หรือ Passive Safety ประกอบด้วย
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่าน, และบริเวณเข่าคนขับ)
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA
Hilux REVO มีสีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สี โดยเป็นสีใหม่ด้วยกัน 3 สี ได้แก่
สีน้ำเงิน Nebula Blue
สีแดง Crimson Spark Red
และสีขาวมุก White Pearl Crystal
ราคา All New Toyota Hilux Revo มีให้เลือกถึง 3 ตัวถัง 33 รุ่นย่อย ดังนี้
**รุ่นมาตรฐาน Single Cab
-2.4J ราคา 569,000 บาท
-2.7J ราคา 569,000 บาท
-2.4J Plus SWB ราคา 585,000 บาท
-2.8J Plus ราคา 605,000 บาท
-2.8J 4x4 675,000 บาท
-2.4J ราคา 569,000 บาท
-2.7J ราคา 569,000 บาท
-2.4J Plus SWB ราคา 585,000 บาท
-2.8J Plus ราคา 605,000 บาท
-2.8J 4x4 675,000 บาท
**รุ่น Smart Cab ตัวเตี้ย
-2.4J ราคา 619,000 บาท
-2.4J Plus ราคา 679,000 บาท
-2.7J Plus ราคา 679,000 บาท
-2.4E ราคา 709,000 บาท
-2.4G ราคา755,000 บาท
-2.4J ราคา 619,000 บาท
-2.4J Plus ราคา 679,000 บาท
-2.7J Plus ราคา 679,000 บาท
-2.4E ราคา 709,000 บาท
-2.4G ราคา755,000 บาท
**รุ่น Smart Cab ยกสูง
-2.4J Plus ราคา 729,000 บาท
-2.4E ราคา 765,000 บาท
-2.7E ราคา 765,000 บาท
-2.4G ราคา 815,000 บาท
-2.4E AT ราคา 815,000 บาท
-2.8G ราคา 859,000 บาท
-2.4G AT ราคา 865,000 บาท
-2.4E 4x4 ราคา 799,000 บาท
-2.8G 4x4 ราคา 899,000 บาท
-2.4J Plus ราคา 729,000 บาท
-2.4E ราคา 765,000 บาท
-2.7E ราคา 765,000 บาท
-2.4G ราคา 815,000 บาท
-2.4E AT ราคา 815,000 บาท
-2.8G ราคา 859,000 บาท
-2.4G AT ราคา 865,000 บาท
-2.4E 4x4 ราคา 799,000 บาท
-2.8G 4x4 ราคา 899,000 บาท
**รุ่น Double Cab ตัวเตี้ย
-2.4J Plus ราคา 725,000 บาท
-2.7E ราคา 795,000 บาท
-2.4E ราคา 795,000 บาท
-2.4J Plus ราคา 725,000 บาท
-2.7E ราคา 795,000 บาท
-2.4E ราคา 795,000 บาท
**รุ่น Double Cab ยกสูง
-2.4J Plus ราคา 809,000 บาท
-2.4E ราคา 845,000 บาท
-2.7E AT ราคา 895,000 บาท
-2.4E AT ราคา 895,000 บาท
-2.4G ราคา 925,000 บาท
-2.4G AT ราคา 969,000 บาท
-2.4G Plus AT ราคา 1,009,000 บาท
-2.8G AT ราคา 1,099,000 บาท
-2.4E 4x4 ราคา 899,000 บาท
-2.8G 4x4 ราคา 1,069,000 บาท
-2.8G AT 4x4 ราคา 1,139,000 บาท
-2.4J Plus ราคา 809,000 บาท
-2.4E ราคา 845,000 บาท
-2.7E AT ราคา 895,000 บาท
-2.4E AT ราคา 895,000 บาท
-2.4G ราคา 925,000 บาท
-2.4G AT ราคา 969,000 บาท
-2.4G Plus AT ราคา 1,009,000 บาท
-2.8G AT ราคา 1,099,000 บาท
-2.4E 4x4 ราคา 899,000 บาท
-2.8G 4x4 ราคา 1,069,000 บาท
-2.8G AT 4x4 ราคา 1,139,000 บาท
นอกจากนี้ โตโยต้า ยังได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า เพื่อให้เกิดการรับรู้สูงสุด เริ่มตั้งแต่การจัดกิจกรรมเปิดตัว Hilux REVO อย่างเป็นทางการที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ พร้อมงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใน 4 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งที่โชว์รูมโตโยต้า 427 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 22 - 24 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ Hilux REVO รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นมาตรฐาน พร้อมส่งมอบได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับรุ่นสมาร์ทแค็บ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ และเริ่มทำการส่งมอบได้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปครับ!!
*********************************************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น