หลังจากที่นิสสันเปิดตัวกระบะใหม่ในบ้านเราครั้งแรกของโลกนามว่า NP300 Navara ไปเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นก็ได้เปิดตัวขายในออสเตรเลียและประเทศอื่นๆทีหลังตามลำดับ ล่าสุดฤกษ์งามยามดี Nissan ก็ได้เผย NP300 Navara เวอร์ชันยุโรปพร้อมสเปคที่คนไทยต้องอิจฉาตาร้อนอย่างแน่นอน..!!
ก่อนอื่นต้องขอพูดเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกก่อน ซึ่งมองๆดูแล้วก็แทบไม่ต่างจากเวอร์ชันบ้านเราเลย ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า ไฟหน้า ล้ออัลลอย มีสปอยเลอร์หลัง และราวหลังคามาให้ครบสูตร ซึ่งคงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก งั้นเราไปดูสิ่งที่มันแตกต่างจากบ้านเรากันดีกว่าครับ...อ้อๆๆ ลืมไปว่าจุดยึดแผ่นป้ายทะเบียนหน้ารถจะย้ายไปติดตรงกันชนข้างล่าง ซึ่งในไทยจะติดไว้ตรงกันชนด้านบนใกล้ๆกับกระจังหน้า และมีหลังคาแบบ Sunroof มาให้ซะด้วย
หัวใจหลักสำคัญของรถคันนี้ที่แตกต่างจากบ้านเรานั่นก็คือเครื่องยนต์ดีเซล dCi ที่จะมีความจุเพียงแค่ 2.3 ลิตรเท่านั้น ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยังให้การประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องเดิมถึง 24% โดยจะมีความแรงให้เลือกทั้ง 160 แรงม้าที่มาพร้อมกับเทอร์โบเดี่ยวๆ และ 190 แรงม้า ที่ทำงานคู่กับเทอร์โบคู่ ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด
ชุดช่วงล่างด้านหลังของเราจะเป็นแหนบแผ่นซ้อนกัน แต่ที่นั่นได้แบบ 5 ลิงค์ (Five-link rear suspension) ที่จะมีการให้ตัวที่นุ่มนวลกว่าดุจดังรถ Crossover SUV และยังสามารถลุยได้อย่างมั่นใจขึ้นอีกด้วย การที่เปลี่ยนจากแหนบแล้วหันมาใช้ Five-link ผลที่ได้ก็คือน้ำหนักจะเบาลงกว่ากันถึง 20 กิโลกรัมเลยทีเดียว แต่ทั้งหมดจะไปประจำการอยู่ในรุ่น Double Cab เท่านั้น
ส่วนรุ่น King Cab ยังจะได้ใช้แบบแหนบเช่นเดิม แต่จะมีการปรับปรุงในเรื่องของมุมล้อด้านหลังใหม่ 3.1% ซึ่งจะมีผลต่อการขับขี่และลดเสียงรบกวนได้ ทำให้ภายในห้องโดยสารเงียบขึ้นนั่นเอง
ส่วนระบบความปลอดภัยที่ใส่มาให้ ก็เรียกได้ว่าสมแก่การรอคอยแล้วที่เปิดตัวหลังไทย 1 ปีเต็ม ถุงลมนิรภัยรอบคัน, ระบบเบรกกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว VDC, ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน HSA, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC, เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง, กล้องมองหลัง, ไฟฉุกเฉินกระพิบอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน FEB และไฟตัดหมอกหลัง จุดเด่นสุดๆจะอยู่ที่กล้องมองภาพแบบรอบคัน Around View Monitor ที่เราคุ้นเคยใน Nissan X-Trail นั่นแหละ
Nissan NP300 Navara เวอร์ชันยุโรปจะออกอวดตัวจริงในวันที่ 15 กันยายนนี้ ที่งาน Frankfurt Motor Show 2015 ซึ่งในบ้านเราอาจจะได้ใช้เครื่องยนต์ใหม่นี้ในรุ่น Minorchange ก็เป็นได้ครับ..!!
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
**************************************
ที่มา worldcarfans
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น