การดีไซน์ภายนอกมีรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้วยกระจังหน้า Piano Black พร้อมแถบ Gun Metallic ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อม ไฟ LED Day Time Running Lights สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง สปอยเลอร์หลังดีไซน์พิเศษ และท่อไอเสียแบบสปอร์ต ทั้งมีสติกเกอร์ Nurburgring Edition ติดไว้บริเวณด้านข้างตัวรถ ไฟท้าย LED Surface illumination แบบรมดำ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ยางขนาด 215/45 R17
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น จะเป็นสีดำสไตล์สปอร์ต แผงคอนโซลหน้าแบบ Piano Black พร้อมแถบสีแดงยาวไปถึงแผงประตู แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift มาตรวัดเรืองแสง 3 วงสปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังตะเข็บแดงปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง เครื่องเล่น DVD หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับระบบนำทางอัจฉริยะ Smart G-BOOK เบาะหนังคู่หน้าแบบ Bucket Seat ปั้มโลโก้ ESPORT พร้อมเดินตะเข็บด้ายแดง
ขุมพลังจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง 1,800 ซีซี เกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ถูกปรับแต่งใหม่ และช่วงล่างมีการปรับปรุงใหม่ให้สปอร์ตยิ่งขึ้น
Toyota Corolla Altis Nurburgring Edition มีให้เลือก 2 สี ได้แก่
สีขาวมุก White Pearl
สีดำ Attitude Black Mica
พร้อมทั้งยังได้ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกรและ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เป็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่อีกด้วย
สีขาวมุก White Pearl
สีดำ Attitude Black Mica
พร้อมทั้งยังได้ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกรและ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เป็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่อีกด้วย
ราคาจำหน่าย Toyota Corolla Altis Nurburgring Edition ดังนี้
Toyota Corolla Altis ESport Nurburgring Edition สีขาวมุก 959,000 บาท
Toyota Corolla Altis ESport Nurburgring Edition สีดำ 949,000 บาท
Toyota Corolla Altis ESport Nurburgring Edition สีขาวมุก 959,000 บาท
Toyota Corolla Altis ESport Nurburgring Edition สีดำ 949,000 บาท
หากสนใจ Toyota Corolla Altis Nurburgring Edition สามารถพบและสัมผัสตัวจริงได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ หรือที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 ที่เมืองทองธานี และจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายนนี้...!!
************************************************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น